วันที่ 17 สิงหาคม 2563 ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาลพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 3/2563 และการประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่ 2/2563 โดยที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติที่สำคัญๆหลายเรื่อง ซึ่งจะมีผลต่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยไปสู่เป้าหมายในระดับ Tier 1ในปีหน้าต่อไป ที่ประชุมนอกจากจะรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินงานต่างๆ รวมถึงการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การตั้งคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต(TICAC)ให้เป็นหน่วยงานถาวรในกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2522 และการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2564 แล้ว ยังได้พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พลตำรวจเอก ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานที่สำคัญเร่งด่วนที่จะให้แล้วเสร็จใน 8 เดือน มีการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาเซียน-ออสเตรเลีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และแต่งตั้งคณะทำงานร่วมว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ไทย-สหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างทีมงานของประเทศไทยและของสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันก็มีการพิจารณายกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการปคม.ที่ไม่จำเป็นด้วย ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินการต่างๆดังกล่าวจะมีผลข่วยสนับสนุนให้การดำเนินงานด้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทยเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและการค้ามนุษย์อีก 4 คณะ โดยได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาไว้ให้ชัดเจน เป็นมาตรฐาน ดังเช่นที่กำหนดไว้ในกฎหมายต่างๆ ซึ่งจะทำให้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนกรรมการที่หมดวาระและยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง อันจะมีผลต่อการดำเนินงานของคณะกรรการต่างๆ โดยเฉพาะการบริหารงานของกองทุนเพื่อการป้องกันแลการปราบปรามการค้ามนุษย์ พลเอก ประวิตร กล่าวขอบคุณคณะกรรมการและหน่วยงานที่ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอให้ฝ่ายเลขานุการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาประกอบการดำเนินงานต่อไป และหากมีปัญหาหรืออุปสรรค รองนายกรัฐมนตรี ยินดีให้การข่วยเหลือสนับสนุน และขอให้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้การค้ามนุษย์หมดไปจากประเทศไทย ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลเพื่อที่จะยกระดับประเทศไทยสู่เทียร์ 1 ในปี 2564