ชลประทานบุรีรัมย์ เร่งก่อสร้างคลองผันน้ำ เพื่อผันน้ำจากลำปะเทียเติมอ่างห้วยตลาด แก้วิกฤตแล้งขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปา หล่อเลี้ยงตัวเมือง โดยใช้งบประมาณที่รัฐบาลอนุมัติกว่า 376 ล้านบาท พร้อมวางแผนแก้ปัญหาระยะยาว (15 ส.ค.63) โครงการชลประทานบุรีรัมย์ เร่งดำเนินการก่อสร้างคลองผันน้ำ เพื่อทำการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำปะเทีย อ.ละหานทราย ไปเติมยังอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ รวมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร เพื่อสำรองน้ำดิบผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชน และเขตเศรษฐกิจในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังจากประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องมา 3 ปี ทำให้ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตประปาหล่อเลี้ยงตัวเมือง ขณะนี้มีเหลือน้ำดิบเพียงประมาณกว่า 1.6 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณความจุรวมกันกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่เพียงพอในการผลิตประปา จึงต้องสูบดึงน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อ.กระสัง มาใช้สำรองผลิตประปา คาดว่าจะสามารถสูบมาใช้ได้ถึงสิ้นเดือน ส.ค.ซึ่งการก่อสร้างคลองผันน้ำในครั้งนี้ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จและสามารถผันน้ำได้ในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินการก่อสร้างคลองผันน้ำ เป็นงบที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล 376 ล้านบาท เมื่อครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งและพิจารณาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในระยะยาว เมื่อเดือน ส.ค.2562 นายเทิดพงศ์ ไทยอุดม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบุรีรัมย์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างคลองผันน้ำดำเนินการ 3 รูปแบบ คือ แบบระบบเปิด แบบรางรูปตัวยู และระบบปิดแบบบล็อกสี่เหลี่ยม ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วยการเสียสละให้ก่อสร้างคลองผันน้ำผ่านที่ดินของตัวเอง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จ และสามารถผันน้ำได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำดิบในการผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชน และพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองบุรีรัมย์ในระยะยาว ก็ได้กำหนดเส้นทางลำเลียงน้ำไว้ 3 เส้นทาง คือ คือการติดตั้งสถานีสูบน้ำที่ฝายบ้านยาง เพื่อสูบผันน้ำจากลำน้ำมาศ อ.ลำปลายมาศ, สร้างคลองผันน้ำเพื่อผันน้ำจากลำปะเทีย อ.ละหานทราย และวางระบบท่อผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อ.กระสัง