SAPPE มองเทรนด์ธุรกิจเครื่องดื่มในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโต รับโอกาสฟื้นตัวหลังโควิด-19 ในเมืองไทยเริ่มคลี่คลาย พร้อมการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Functional Drink ที่พฤติกรรมของ บริโภคหันมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมากขึ้น ทั้งยังมองกำลังซื้อในต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3/63 วางเป้าหมายยอดขายทั้งปีทำได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน อีกทั้งรับปัจจัยบวกจากภาษีนวัตกรรมในครึ่งปีหลังที่ปรับตัวลดลงจาก 10% เหลือเพียง 3% ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า แม้ในไตรมาสที่ 2/63 จะได้รับผลกระทบยอดขายลดลงจากมาตรการล็อคดาวน์ไปบ้าง ทำให้มีรายได้รวมอยู่ที่ 728.2 ล้านบาทปรับตัวลดลง 22% จากปีก่อนหน้า และมีผลกำไรสุทธิที่ 81.6 ล้านบาท แต่บริษัทยังได้รับปัจจัยบวกจากวิกฤตดังกล่าว เนื่องจากผู้บริโภคใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังเห็นได้จากการเติบโตที่ดีของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Functional Drink และ Functional Jelly ที่คาดการณ์ว่าจะเป็นเทรนด์ที่จะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ทั้งนี้ SAPPE ประเมินว่ากำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศและตลาดส่งออกจะเริ่มฟื้นตัวช่วงไตรมาส 3/2563 หลังจากประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสถานการณ์ในหลายๆ ประเทศเริ่มคลี่คลายและมีการบริหารจัดการที่ขึ้นดีภายใต้การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อการฟื้นตัวของยอดขายในครึ่งปีหลังที่วางเป้าหมายให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 3,386.9 ล้านบาทพร้อมปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มุ่งเน้นรักษากำไรสุทธิ จากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ตลอดจนปรับแผนค่าใช้จ่ายการขายและการตลาดให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และยังได้รับปัจจัยบวกจากการปรับลดลงของภาษีนวัตกรรมในครึ่งปีหลังอีกด้วย สำหรับ SAPPE เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วงครึ่งปีหลังอีก 5-6 รายการ (SKUs) และล่าสุดได้ออกนวัตกรรมใหม่ Mogu Mogu Ice Burst ไอศกรีมกลิ่นสตรอเบอรี่และลิ้นจี่ ผสมวุ้นมะพร้าว ที่สามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ในอุณหภูมิห้อง แต่บริโภคแบบแช่แข็งในรูปแบบไอศกรีมหรือน้ำแข็งใสที่ให้รสชาติหอมอร่อย สดชื่น และมีเนื้อวุ้นมะพร้าวอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Mogu Mogu ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ รวมทั้งบริษัทยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าแบบดั้งเดิมและช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม อาทิ SAPPE LINE Official,ALL COCO LINE Official นอกจากนี้บริษัทยังขยายผลิตภัณฑ์น้ำผสมวิตามิน บลู ไปยังตลาดใหม่ๆอย่างต่อเนื่องในกลุ่มประเทศ กัมพูชา ลาว และเกาหลีใต้