NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ ปรากฏการณ์ #ฟ้าแลบ และ #ลูกเห็บแอมโมเนีย บนดาวพฤหัสบดี โดยข้อมูลล่าสุดจากยานอวกาศจูโนของนาซา พบว่าการเกิดปรากฏการณ์ฟ้าแลบบนดาวพฤหัสบดีที่เรียกว่า "Shallow Lightning" เกิดจากการคายประจุไฟฟ้าของก้อนเมฆที่ประกอบไปด้วยสารละลายแอมโมเนีย ต่างกับก้อนเมฆในชั้นบรรยากาศโลกที่มีองค์ประกอบหลักเป็นน้ำ พายุฝนฟ้าคะนองที่รุนแรงนี้จะพัดพาผลึกน้ำแข็งจากเมฆชั้นล่างที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักขึ้นไปยังชั้นเมฆแอมโมเนีย จากนั้นผลึกน้ำแข็งจะละลายและรวมตัวกับแอมโมเนียเกิดเป็นหยดสารละลายแอมโมเนีย แล้วตกลงไปชนกับผลึกน้ำแข็งส่วนที่ถูกพัดจากขึ้นมาจากเมฆชั้นล่างของน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ก้อนเมฆในชั้นนี้เกิดประจุไฟฟ้า และมีการคายประจุไฟฟ้าออกมาเกิดเป็นปรากฏการณ์ฟ้าแลบบนดาวพฤหัสบดีนั่นเอง นอกจากนี้ ข้อมูลจากยานอวกาศจูโน ยังชี้ให้เห็นว่าพายุฝนฟ้าคะนองที่รุนแรงบนดาวพฤหัสบดีอาจก่อให้เกิดพายุลูกเห็บแอมโมเนีย ที่เรียกว่า “Mushballs” ซึ่งตามทฤษฎีแล้วมีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากสารละลายแอมโมเนียในบรรยากาศชั้นบนที่มีอุณหภูมิเย็นยิ่งยวด ชนเข้ากับอนุภาคหรือผลึกน้ำแข็งขนาดเล็ก เกิดเป็นลูกเห็บแอมโมเนียขนาดเล็ก ลูกเห็บดังกล่าวอาจถูกกระแสลมพัดพาให้เคลื่อนที่อยู่ในเมฆ และกระทบกับสารละลายแอมโมเนียเย็นยิ่งยวดเพิ่มเติม ซึ่งจะกลายเป็นชั้นน้ำแข็งพอกผิวให้ลูกเห็บมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อลูกเห็บมีขนาดใหญ่มากจนกระทั่งกระแสลมในเมฆพยุงไว้ไม่อยู่ ก็จะตกลงลงสู่ชั้นบรรยากาศที่ลึกลงไปในดาวพฤหัสบดีต่อไป ข้อมูลที่เก็บได้จากอุปกรณ์ตรวจวัดรังสีไมโครเวฟ ของยานอวกาศจูโน ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทราบว่าปริมาณแอมโมเนียในบรรยากาศชั้นบนของดาวพฤหัสบดีค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฟ้าแลบและการเกิดลูกเห็บแอมโมเนียจะเป็นกุญแจสำคัญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการลดลงของระดับแอมโมเนียในบรรยากาศชั้นดาวพฤหัสบดีได้ในอนาคต อ้างอิง : https://www.missionjuno.swri.edu/…/shallow-lighting-and-mus… วิดีโอ : https://youtu.be/tq_6DClZ0Ns เรียบเรียง - ธนกฤต สันติคุณาภรต์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร.”