นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เร่งรัดหน่วยงานในสังกัด ทส. ให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ ในการนี้ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ( คพ.) ได้ติดตามความก้าวหน้าการฟื้นฟูการปนเปื้อนตะกั่วในห้วยคลิตี้ จังหวัดกาญจนบุรี และเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อติดตามการดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ ได้ดำเนินงานมาแล้วกว่า 997 วัน โดยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานในภาพรวมกว่าร้อยละ 80 ทั้งนี้ ผู้รับจ้างได้ก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัยและฝายดักตะกอนจำนวน 2 แห่งแล้วเสร็จ โดยได้ขุดลอกตะกอนออกจากลำห้วยและปรับเสถียรกากแร่รวมกันแล้วกว่า 18,500 ตัน นายประลอง กล่าวว่า ในขณะนี้ การฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ยังคงเหลืองานที่จะต้องดำเนินการคือการขนย้ายดินและตะกอนปนเปื้อนลงหลุมฝังกลบ การจัดการตะกอนริมตลิ่งของลำห้วย และการปิดคลุมหลุมฝังกลบแบบปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมา โครงการฯดังกล่าวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำงานในพื้นที่ได้ รวมทั้งการจัดส่งอุปกรณ์ที่จำเป็นเข้าพื้นที่และเร่งดำเนินโครงการตามแผนงานที่กำหนดไว้ได้ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสถานการณ์ โควิด-19 คพ.จึงได้พิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการออกไปอีก 82 วัน โดยให้บริษัทผู้รับจ้างไปจัดทำแผนการดำเนินงานในกรอบระยะเวลาที่เหลืออยู่เพื่อให้โครงการฯ แล้วเสร็จได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนกองกากแร่ซึ่งมีการตรวจพบเพิ่มเติมซึ่งมีการร้องขอให้ ทส.โดย คพ. แก้ไขปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ให้ดำเนินการนั้น กรมควบคุมมลพิษจะได้กำหนดเป็นกิจกรรมไว้ในขอบเขตการดำเนินงานของโครงการฯ ระยะที่ 2 ซึ่งได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินการ มีกิจกรรมประกอบด้วย การขุดกากหางแร่และดินปนเปื้อนพร้อมทำการปรับเสถียร ในพื้นที่ซึ่งตรวจพบใหม่ และการซ่อมฝายดักตะกอนที่มีอยู่เดิมซึ่งชำรุดเนื่องจากถูกต้นไม้ล้มทับ เป็นต้น นายประลอง กล่าว +++++++