ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 12 มิ.ย.60 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.พลูทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค5 พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รองผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้ายาสะติดรายสำคัญจำนวน 4 คดี คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการบำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และสภ.สามร้อยยอด ได้ร่วมจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวน 1 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน 1.นายกฐมพร พรเสงี่ยมนุกูล อายุ 26 ปี ชาวจ.ระยอง 2.นายสุทัศน์ กระจายศรี อายุ 45 ปี ชาวจ.สุรินทร์ นายคำรณ จันอ่อน อายุ 31 ปี ชาวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 910,000 เม็ก รถยนต์เก๋งจำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะจำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ในข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภอที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อนจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณจุดตรวจหน้าสภ.สามร้อยยอด ถ.เพชรเกษมขาล่อง ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน เวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ และจากการสืบสวนตรวจพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดลงไปยังพื้นที่อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจสอบและติดตาม และสามารถตรวจพบรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ในพื้นที่ถนนเลี่ยงเมืองหัวหิน และได้ประสานงานกับสภ.สามร้อยยอด ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางดังกล่าว โดยนายปฐมพรเป็นคนขับลำเลียงยาเสพติด และนายสุทัศน์เป็นคนขับรถนำเส้นทางโดยมีนายคำรณนั่งมาด้วย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเ คยร่วมลำเลียงยาเสพติดในลักษณะนี้มาแล้วจำนวน 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยทำการขับลำดลียงยาเสพติดไปจนถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วจะมีผู้มาขับรถคันดังกล่าวไปอีกทอดหนึ่ง จากนั้นจึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการบำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และสภ.แม่พริก จ.ลำปาง ได้ร่วมกันจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวน 1 คดี ผู้ต้องหา 1 คน คือนายณัฐชัย วรญานนท์ อายุ 42 ปี ชาวจ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด ไอซ์ 10 กิโลกรัม รถตู้จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ในข้หา "มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่รับอนุญาต" สามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ด่านเอ็กซเรย์ตรวจค้นยาเสพติดแม่พริก ถ.พหลโยธินขาล่อง ระหว่างหลัก กท.594-595 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน เวลา15.00 น. ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับและจากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวของนายณัฐชัย มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนด้านจ.เชียงรายเข้าสู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ขุดจับกุมดังกล่าวจึงได้ทำหารตรวจสอบและติดตามและสามารถตรวจพบรถยนต์ของกลาง ข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านและกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจึงได้ติดตามจนมาถึงที่เกิดเหตุ แล้วทำการตรวจค้นผลการตรวจค้นพบของกลางซุกซ่อนอยู่ใต้หลังคารถตู้และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าผู้ว่าจ้างในการลำเลียง เพิ่งซื้อรถตู้ของกลางให้โดยใช้ชื่อผู้ต้องหาเป็นเจ้าของ เพื่อใช้ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากนั้นก็นัดหมายให้ขับรถข้ามไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้านแล้วมีคนมารับของกลางแล้วนำยาเสพติดมาซุกซ่อนในรถแล้วนำรถมาคืน จากนั้นผู้ต้องหาได้ขับข้ามกลับมายังฝั่งราชอาณาจักรไทย และหากไม่ถูกจับเสียก่อนจะนำยาเสพติดส่งไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คดีที่3 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด(บก.สกส.บช.ปส.) และบก.ขส ได้รวมกันจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 4 ราย คือ นายมนัส ปราณี อายุ36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 3 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. น.ส.บุษกร รักประชา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/563 หมู่ 14 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง น.ส.สุพัตรา วรรณสุทธิ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/153 หมู่2 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. และน.ส.โชติรส นลินทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/33 จซ.เลียบวารี37 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 100,000เม็ด ไอซ์ จำนวน 5 กิโลกรัม รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำตาล รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว และโทรศัพท์มือถือจำนวน 6เครื่อง ข้อหาร่วมกันมียาเสพติตให้โทษประเภท1 สามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนพุทธมณฑล สาย3 แขวงทวีวัฒนา กทม. ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง4รายจะลำเลียงยาเสพติดมาจาก อ. แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล โดยจะให้รถลำเลียง2 คัน คือรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำตาลสำหรับขนยาเสพติด และ รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ใช้สำหรับนำทางและสำรวจด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตาม จนมาพบรถทั้ง2คันที่บริเวณริมถนนพุทธมณฑล สาย3 จึงได้ข้อตรวจค้นจนพบของกลาวดังกล่าว จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไปรู้จักกันที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพหลังจากมาเยี่ยมญาติซึ่งติดคุกในข้อหายาเสพติดไปก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงได้มีการติดต่อวางแผนเพื่อนำยาเสพติดลงมาจากดอยแม่สลอง มาส่งในพื้นที่ตอนใน โดยมีการทำแผนที่เพื่อหลบด่านตรวจ แต่กลับหนีไม่พ้นโดนจับกุมได้ในที่สุด คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กองท12 ศรภ.กอบบัญชาการกองทัพไทย กับกุมผู้ต้องหา2ราย คือMr.Saveng Douanghvusuth อายุ 23ปี สัญชาติลาว และ Miss Kopkeo Phoumuvong อายุ 23 ปี สัญชาติลาว พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 2 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณร้านแบล็คแคนยอน ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์สาขาบางแคร์ ต่อเนื่องบริเวณโคนต้นไม้ หน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกาญจนภิเษก แขวงและเขตบางบอน กทม. จากการสืบสวนทางการข่าวทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายพ่อค้ายาเสพติดชาวลาว จะมีการส่งมอบยาเสพติดกันในพื้นที่ภาคกลาง จนทราบว่าจะมีการส่งมอบยาไอซ์ในวันที่ 9 มิถุนายน เวลาประมาณ 19.20น. ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกาญจนภิเษก จึงติดตามจนกระทั่งพบMr.Saveng Douanghvusuth และMiss Kopkeo Phoumuvong ที่ร้านแบล็ค แคนยอน ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์สาขาบางแค จึงได้เข้าแสดงตัวตรวจค้นและติดตามยึดไอซ์น้ำหนักประมาณ2 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณโคนต้นไม้ หน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ซึ่งเป็นจุดที่นัดพบ โดยMr.Saveng เป็นน้องชายของนายแดงกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวลาวและ เป็นเจ้าของไอซ์ ............................................... ปราบไม่หมด/พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) / ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. และผู้ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลปฏิบัติการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 10 คน พร้อมของกลางเป็น ยาบ้า กว่า 1.2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ กว่า 17 กิโลกรัม ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯดังกล่าว ส่วนMiss Kopkeo เป็นภรรยาของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมเพิ่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ...............................................