พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า...ประท้วงคำแถลงการณ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต่อกรณีชุมนุมเมื่อ 10 ส.ค.63 ดังนี้ 1. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผลักความรับผิดชอบอย่างสิ้นเชิงโดยให้กิจกรรมบั่นทอนสถาบันฯ กลายเป็นเรื่องความผิดส่วนบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไปดำเนินการเอาเอง คำแถลงการณ์ดังกล่าวหาได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่ผู้บริหารเป็นผู้อนุญาตให้จัดกิจกรรมซึ่งหากเกิดเหตุหรือกิจกรรมที่เกินเลยกว่าข้อตกลงแล้ว ผู้บริหารจะต้องสั่งระงับและเลิกกิจกรรมในทันที แต่ผู้บริหารหาได้กระทำเช่นนั้น แต่กลับปล่อยปละละเลยจนกิจกรรมดังกล่าวล่วงเลยจนถึงที่สุดและสร้างความไม่พอใจอย่างใหญ่หลวงต่อประชาชนทั่วทั้งประเทศ และมีแนวโน้มร้ายแรงจนอาจนำมาซึ่งความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ 2. ผมขอถามผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าถ้าประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป แล้วกรูกันเข้าทำร้ายผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะยึดถือตรรกะว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลอีกหรือไม่ หากมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ยึดถือตรรกะเช่นนี้แล้วเหตุการณ์รุนแรงและการสูญเสียคงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในอนาคตอันใกล้...นี่คือสิ่งที่ขบวนการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องการอยากให้เกิดขึ้นใช่ไหม...ต้องการใช้ชีวิตผู้ชุมนุมเป็นเครื่องมือใช่หรือไม่...ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องการสถานการณ์เช่นนี้ด้วยหรือ 3. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องแสดงความจริงใจและจริงจังด้วยการเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดทุกราย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายนอก หรือเป็นนักศึกษา ทั้งนี้จะต้องประกาศรายชื่อผู้กระทำความผิดให้สาธารณชนทราบทั่วกัน ในกรณีนักศึกษาในความรับผิดชอบของตน ผู้บริหารจะต้องรักษากฎระเบียบวินัยนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอย่างเคร่งครัด หากมิฉะนั้นแล้วกิจกรรมการแสดงออกที่เกินเลยกว่าคำว่า 'สิทธิและเสรีภาพ' จะกลายเป็นชนวนแห่งความรุนแรงที่นำมาซึ่งการสูญเสียดังเช่นประวัติศาสตร์ที่สังคมไทยไม่ต้องการ...หรือว่าผู้บริหารต้องการ??? 4. เมื่อผู้บริหารดำเนินการตามข้อ 3 แล้ว จะต้องลาออกทั้งคณะเพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบในความเลวระยำที่ปล่อยให้มีกิจกรรมบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักแห่งความมั่นคงของชาติ 5. กระทรวงอุดมศึกษาฯ จะต้องพิจารณาตัดลบงบประมาณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ลง และจะต้องทบทวนกระบวนการสรรหาอาจารย์ อย่าปล่อยให้มีอาจารย์จัญไรส่วนน้อยที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสีย และเสียหายต่อส่วนรวม ต่อชาติและราชบัลลังดังที่เป็นอยู่อีกต่อไป