ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ... ช่วงที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านตอนเกิดการระบาดของโควิดใหม่ๆ แล้วมีการเปิดเพจ"ธรรมศาสตร์และการฝากร้าน" ได้ไม่นานนัก ผมเคยเข้าไปแนะนำตัวที่เพจนั้นและแสดงความคิดเห็นว่า จำเป็นต้องใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในการนำพาตัวเองและบ้านเมืองให้รอด ปรากฏว่าผมโดนทัวร์ลง ... ทั้งๆที่ผมเคยสอนอยู่ที่ธรรมศาสตร์ถึง 32 ปีเต็มก่อนที่จะเกษียณจากราชการเมื่อสามปีก่อน สิ่งที่ผมทำคือถอยออกมาเงียบๆ และไม่โต้ตอบใดๆทั้งสิ้น ผมตระหนักได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า ที่นั่นมิใช่ธรรมศาสตร์และนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ผมคุ้นเคยอีกต่อไปแล้ว แต่ถูกยึดครองโดยคนกลุ่มหนึ่งที่ "สุดโต่งทางการเมืองแบบซ้ายจัด" ในด้านหนึ่ง ผมจึงไม่แปลกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ธรรมศาสตร์รังสิตเมื่อคืน ฝ่ายผู้บริหารอย่ามาแก้ตัวน้ำขุ่นๆเลยครับ ว่าเป็นเรื่องของบุคคลภายนอก นักศึกษาธรรมศาสตร์ไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ...เพราะคลิปเมื่อคืน เสียงปรบมือ เสียงโห่ ภาพฉากบนเวที มันไม่โกหกใครหรอกครับ มีแต่คนที่หลอกตัวเองและหวงเก้าอี้เท่านั้นที่ปฏิเสธแบบหัวชนฝา ไม่ยอมเห็นความจริงนั้น สี่ปีที่แล้วซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ผมสอนหนังสือที่ธรรมศาสตร์ พวกนักศึกษาทั่วไปไม่ได้ตื่นตัวทางการเมืองนะครับ ยิ่งเรื่องการชังเจ้านี่ไม่มีเลยด้วยซ้ำ การก่อตัวของเยาวชนปลดแอกที่มีพวกนักศึกษาหัวรุนแรงในธรรมศาสตร์และมหาลัยอื่นๆเป็นหัวหอก น่าจะเป็นผลพวงของเครือข่ายการจัดตั้งของพรรคอนาคตใหม่ที่เพิ่งถูกยุบไป แต่การบ่มเพาะความคิดให้ชังเจ้าและล้มเจ้ากลับดำเนินไปอย่างขะมักเขม้นตลอด 24 ชั่วโมงไม่น้อยกว่าสองปีเต็มในโลกออนไลน์ผ่านการปั่นทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นเขตปลดปล่อยของพวก "นักปฏิวัติรุ่นใหม่" นี่คือผลที่มาจากเหตุที่เราสามารถสืบสาวร่องรอยย้อนกลับไปได้ทั้งสิ้น งานหลักๆต่อจากนี้ น่าจะเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องทำการ Profiling ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการปลดแอกเพื่อล้มสถาบันออกมาให้หมดว่า มีใครเป็นใครบ้างและมีบทบาทขนาดไหน ... จากนั้นก็ดำเนินคดีแต่ละคนตามกฏหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น ผมคิดว่านี่คือทางออกที่นุ่มนวลที่สุดแล้วในการจัดการขบวนการปลดแอกล้มสถาบันนี้ สุวินัย ภรณวลัย 11 สิงหาคม 2020 ขอบคุณข้อมูลและภาพ เฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai