เมื่อวันที่ 2 ส.ค.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกองทัพบกส่งกองร้อยทหารราบ RTA Combat Team กำลังผสมจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 เดินทางไปยังเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1-29 ก.ค.63 และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 กลับมาจำนวน 9 ราย ภายหลังเข้ากักตัวและตรวจหาโรค ว่า ทั้งๆ ที่รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.63 ชัดเจนว่าให้ปรับแผนการเดินทางไปราชการต่างประเทศ สำหรับศึกษา ดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ในต่างประเทศ โดยให้นำเอางบประมาณมาใช้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และให้ระงับการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ากองทัพบกก็ไม่ได้นำพาและไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม. แต่อย่างใด ทั้งที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวนี้ นอกจากผู้บัญชาการทหารบกจะรับรู้ด้วยแล้ว ยังมีนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาร่วมเห็นชอบด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เมื่อเกิดความบกพร่องขึ้น รัฐบาลไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ไม่มีการชดเชยเยียวยาให้แก่ประชาชน และผู้ประกอบการผู้ที่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบว่า กองร้อยทหารราบ RTA Combat Team จำนวน 151 นาย จะเดินทางกลับมาสู่ประเทศไทยในวันที่ 22 ก.ค.63 และจะใช้อาคารรับรองสวนสนประดิพัทธ์ เป็นสถานที่กักตัว ประชาชนจึงได้มีการคัดค้าน เพราะเกรงว่าการท่องเที่ยวที่หัวหินที่กำลังจะเพิ่งฟื้นตัวจะได้รับผลกระทบเหมือนกับที่ จ.ระยอง นายวิโรจน์กล่าวว่า คำถามที่เกิดขึ้นในใจของประชาชนทันทีและยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากกองทัพบก มีอยู่หลายคำถามด้วยกัน คือ 1.ที่ผ่านมากองทัพบกเคยทำตัวเป็นกลุ่มวีไอพี ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามมติ ครม.มาทีหนึ่งแล้ว โดยจากกรณี พล.ต.ราชิต อรุณวงษ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ในฐานะนายสนามมวยลุมพินี ฝืนมตินี้และดึงดันจัดเวทีชกมวยศึกลุมพินีแชมเปี้ยนเกริกไกร ในวันที่ 6 มี.ค.63 จนก่อให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ โดยนอกจากการสั่งย้ายแล้ว ยังไม่มีการดำเนินคดีอาญากับ พล.ต.ราชิต และผู้ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด มาจนถึงกรณีการส่งทหารไปฝึกที่ฮาวาย ทั้งๆ ที่มีมติ ครม.ออกมาแล้ว ถือตนว่าเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชน วีไอพีที่ไม่ต้องเคารพมติ ครม.ก็ได้อย่างนั้นหรือ 2.ประชาชนจำนวนมากต้องการทราบว่า การส่งกองกำลังทหารราบ RTA Combat Team ไปร่วมฝึกผสมในครั้งนี้นั้นใช้งบประมาณไปเท่าไหร่กันแน่ ทั้งนี้ มีการคาดว่าน่าจะเป็นงบส่วนหนึ่งจากงบประมาณค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมและศึกษาต่างประเทศ 165.45 ล้านบาท ที่อยู่ในโครงการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ ใช่หรือไม่ “ถ้าใช่ ก็เท่ากับว่ากองทัพบกไม่ได้สนใจใยดีถึงปัญหาปากท้องและปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอยู่ทุกหย่อมหญ้าในขณะนี้เลย แทนที่จะประหยัดงบประมาณ เพื่อให้รัฐบาลเอาไปใช้ช่วยเหลือประชาชน กลับเอางบประมาณไปถลุง พากำลังพลไปติดโรคกลับประเทศ ซึ่งกองทัพบกควรจะต้องชี้แจงให้ชัดว่าใช้งบประมาณไปกี่ล้านบาท ในการพากำลังพลไปติดโรคในครั้งนี้ ปัจจุบัน ประชาชนเอือมระอากับการใช้งบประมาณที่สุรุ่ยสุร่าย โดยไม่เห็นหัวของประชาชนของกองทัพมามากเพียงพอแล้ว"นายวิโรจน์ กล่าว นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาแทนที่กองทัพจะพิสูจน์ให้ประชาชนได้รับรับรู้ว่ากองทัพมีความรับผิดชอบสูงกว่าพลเรือน แต่จากกรณีสนามมวยลุมพินี และกรณีกราดยิงโคราช กลับทำให้ประชาชนสิ้นหวัง ไม่เห็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างสมศักดิ์ศรีของกองทัพแต่อย่างใด น่าจะถึงเวลาที่กองทัพ ควรจะต้องทบทวน มีสำนึก รู้จักเอาความเดือดร้อน และปัญหาปากท้องของประชาชนมาใส่ไว้ในหัวใจของตัวเองเสียบ้าง และปรับปรุงตัวได้แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการชี้แจงในเรื่องงบประมาณในการจัดส่งทหารไปฝึกผสมที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเร็ววันนี้ ไม่ใช่คิดจะเนียน และปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเฉยๆ