เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นบ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่โดยสำรวจพื้นที่จุดผ่อนปรนการค้ากิ่วผาวอก ติดตามนโยบายการค้าชายแดนเพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศไทย ผลักดันการเปิดด่านโดยได้มีการประชุมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนก่อนการสำรวจพื้นที่ชายแดนร่วมกับทุกฝ่ายด้วย ทั้งนี้นายจุรินทร์ ได้รับฟังข้อมูลด้านชายแดนจากฝ่ายความมั่นคงและพื้นที่ตรงพิกัดด่านกิ่วผาวอก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ข้อสรุปการประชุมทุกฝ่ายในวันนี้มีความคืบหน้าคือให้มีการเตรียมการจากฝั่งไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อเตรียมการการประชุมทุกฝ่าย โดยในวันนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ในเรื่องการที่จะหาหนทางให้เมียนมาเห็นด้วยจะแบ่งเป็น 4 ส่วน ขอให้ทุกฝ่ายประสานกับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมหากฝ่ายเมียนมาเห็นชอบพร้อมเมื่อไหร่ให้ทางเราดำเนินการทันทีภายในหนึ่งเดือน สำหรับในการดำเนินการแบ่งหน้าที่ 4 ส่วนคือ 1.ขอให้ฝ่ายความมั่นคงคือ แม่ทัพภาคถือเป็นตัวแทนไปหารือหน่วยงานความมั่นคงของเมียนมา เพื่อเจรจาให้เกิดผลสำเร็จ 2.กระทรวงต่างประเทศของไทยให้ประสานกับกระทรวงต่างประเทศของเมียนมา 3.ในส่วนของภาครัฐ กระทรวงพาณิชย์โดย รมว.พาณิชย์จะรับหน้าที่หารือเรื่องนี้กับทูตเมียนมาประจำประเทศไทยจะหารือกับทูตพาณิชย์ประจำประเทศไทยว่าจะมีลู่ทางอะไรได้จะเป็นการช่วยอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันจะสั่งให้ทูตพาณิชย์ไทยประจำเมียนมาประสานกับทูตไทยประจำเมียนมาผลักดันช่วยกัน 4.ภาคเอกชนไทยกับภาคเอกชนเมียนมาต้องประสานกันที่จะช่วยเจรจาให้รัฐบาลเมียนมาอีกทางหนึ่ง เพื่อที่จะช่วยกันหลายลู่ทาง เพราะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ โดยมอบให้สมาคมเศรษฐกิจวัฒนธรรมไทย-เมียนมา สภาอุตสาหกรรม หอการค้าไทย ร่วมมือกันประสานงาน