แม้การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ระดับหัว คือ ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ จะไม่มีปัญหา เพราะมีความชัดเจน อีกทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ได้เคยหารือ กับ ผบ.เหล่าทัพ ไปก่อนแล้ว แต่ที่มีปัญหา คือ ในระดับ 5 เสือของแต่ละเหล่าทัพ โดยเฉพาะในส่วนของ 5 เสือทบ. ที่แม้จะแน่ชัดว่า “บิ๊กบี้” พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ. จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป แถมนั่งได้ยาว ยันเกษียณ ต.ค. 2566 เลย แต่ตำแหน่งที่ยังไม่ลงตัว คือ เก้าอี้ ของ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ. เพราะหากยึดหลักการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ทั่วไป จาก ตำแหน่ง รอง ผบ.ทบ. ถ้าไม่ได้ เป็น ผบ.ทบ. หรือ ผบ.สูงสุด ก็ต้องถูกขยับขึ้นไป 1. แขวนเป็น ประธานที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ที่เป็นอัตราจอมพล เช่นกัน แต่ก็เพื่อที่จะไม่ขวางทางใคร หรือ 2. ถูกเตะข้ามฟาก ไปเป็น รอง ผบ.สูงสุด ที่เป็นอัตราจอมพล ยิ่งเป็นปีสุดท้าย ก่อนเกษียณ ด้วยแล้ว ก็คือการเกษียณคากรุ แต่เพราะ ผบ.สูงสุด คนใหม่ คือ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่เป็น รุ่นน้อง เตรียมทหาร 21 พล.อ.ณัฐพล ซึ่งเป็นรุ่นพี่เตรียมทหาร 20 ก็คงจะไม่อยากอยู่นัก แถมทหารในบก.ทัพไทย ก็ดูจะไม่ต้อนรับ เพราะ เก้าอี้ รองผบ.สูงสุด โควตา ทบ. นั้น มี “บิ๊กชู” พล.อ.ชูชาติ บัวขาว รองผบ.ทหารสูงสุด ที่ข้ามมาจาก ทบ. นั่งครองยาว ต่อเนื่องมาตั้งแต่ มาเป็น รองเสธ.ทหาร หาก พล.อ.ณัฐพล จะมาเป็น รองผบ.สูงสุด ก็จะต้องส่ง พล.อ.ชูชาติ เพื่อน ตท.20 ไปเป็น รองปลัดกลาโหม เสียก่อน หรือ 3. ส่ง พล.อ.ณัฐพล ไปเป็น รองปลัดกลาโหม เลย เพราะ ปลัดกลาโหม คือ “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ เป็นเพื่อน ตท.20. ทำงานด้วยกันได้ แต่ที่กล่าวมานี้ เพราะ พล.อ.ณัฐพล ไม่ใช่นายทหาร ที่อกหักพลาดหวัง เหมือนนายทหารคนอื่นๆ ที่จะถูกจับลงวาง ใน 1-2-3 แต่เพราะ พล.อ.ณัฐพล เป็นน้องรักของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม และเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้วางใจ ใช้งานมาอย่างยาวนาน ต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยอยู่กองทัพบก จนมาเป็นนายกฯในรัฐบาลคสช. และจน ปัจจุบัน จึงอาจทำให้พอมีสิทธิ์เลือกหรือตัดสินใจร่วมได้อยู่บ้าง ทั้งนี้เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มักจะยึดหลักการดูแล และตอบแทนคนที่ตนเองใช้งาน มาเสมอ ในเมื่อพล.อ.ณัฐพล ไม่ได้อยากย้ายไปไหนทั้งสิ้น หาก ไม่ใช่ เบอร์ 1 จึงอยากจะอยู่ เป็น ทบ2 นั่งเก้าอี้ตัวเดิม เป็นปีที่3 ปีสุดท้าย สร้างประวัติศาสตร์ จนเกษียณ ต.ค.2564 อย่างน้อย ก็ได้เกษียณในเหล่าทัพกำเนิด แต่ ทว่า พล.อ.ณัฐพล ก็จะขวางทาง ขึ้นของ “บิ๊กเป้ง” พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสธ.ทบ. (ตท.19) แต่อายุน้อย ที่ไลน์จะขึ้น รองผบ.ทบ.ได้ จึงทำให้การจัดโผกองทัพบกลงตัวได้ยาก ความจริงมีเก้าอี้ ที่ใครๆก็ว่า เหมาะเจาะ และเหมาะสม กับ พล.อ.ณัฐพล คือ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพราะ 1.) “บิ๊กอั๋น” พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา จะเกษียณราชการ ตุลาคม 2563 นี้ แล้วพล.อ.ณัฐพล ก็ได้มาทำงานใกล้ชิด ร่วมทีมกับ พล.อ.สมศักดิ์ ในช่วงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิดฯ ที่ ศบค.ทำเนียบรัฐบาล มาตลอดหลายเดือน 2.) พล.อ.ณัฐพล เหลืออายุราชการอีกหนึ่งปี ก็สามารถที่จะ เป็น เลขาฯสมช.ได้ โดยไม่ต้องกลัวจะตัดหน้า “บิ๊กโจ้” พล.อ.ณตฐพล บุญงาม ที่มาช่วยงานที่ สมช. จ่อขึ้น เลขาฯสมช. อยู่ แต่เขาเป็น ตท.21 มีอายุ ถึง ต.ค. 2566 ดังนั้น ก็ต่อคิว เป็น เลขาฯสมช. ต่อจาก พล.อ.ณัฐพล ได้ 3.) เพราะในระยะหลังๆมานึ้ เก้าอี้ เลขาฯสมช. กลายเป็นที่รองรับการแต่งตั้งโยกย้ายทหารที่ไม่ลงตัว ทั้งที่เป็นเก้าอี้เบอร์1 ของหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง แต่เพราะส่วนใหญ่เห็นว่าคนเป็นทหารก็สามารถดูแลงานด้านความมั่นคงได้อยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดว่าไม่เป็นการเหมาะสมแต่อย่างใด เอาแค่ในยุครัฐบาลคสช. ก็มีทหารเป็นเลขาฯ สมช. มากกว่า พลเรือน และล้วนเกิดปัญหาในการแต่งตั้งโยกย้ายทหารทั้งสิ้น เริ่มจาก อนุสิษฐ์ คุณากร ที่ได้เป็นเลขาฯสมช. เพราะ เป็นรองเลขาฯสมช. และ ได้รับแรงหนุนจาก ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. ที่ถูก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯในเวลานั้น สั่งย้าย อย่างไม่เป็นธรรม จนต้องถูกตัดสินลงโทษ และพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนนำมาซึ่งการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 จากนั้นมาเก้าอี้เลขาฯสมช.ก็ตกอยู่ในกำมือทหาร ตั้งแต่ “บิ๊กแอ๊ว” พล.อ.ทวีป เนตรนิยม 2 ปี แล้วมา พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ 2 ปี และ พล.อ.สมศักดิ์ อีก 1 ปี โดยก่อนหน้านี้มีการวางตัว พล.อ.ณตฐพล เอาไว้ เพราะเป็นนายทหาร ที่ได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้งโยกย้าย จากเดิมที่เป็นตัวเต็งผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่เมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.สนับสนุนให้ พล.อ.เฉลิมพล ข้ามจากกองทัพบก มาเป็นเสนาธิการทหาร และจอขึ้นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำให้พล.อ. ณตฐพล หมดโอกาสที่จะขึ้นเป็นเบอร์1 ของกองทัพไทย จึงมีการโยกย้ายจากตำแหน่ง เจ้ากรมข่าวทหาร ให้ไปเป็นพล.อ.ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม และให้มาช่วยราชการที่ สมช. เพื่อเตรียมตัวขึ้นเป็นเลขาฯสมช. แต่ทว่าความไม่ลงตัวในการโยกย้ายทหารในส่วนของกองทัพบก ก็อาจส่งผลให้ เก้าอี้เลขาฯสมช. จะถูกใช้ในการแก้ปัญหาอีกครั้ง เพราะในที่สุดแล้วก็เชื่อกันว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจให้พล.อ.ณัฐพล มานั่งเป็นเลขาฯสมช. แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่มันคือสูตรที่ลงตัวที่สุดสำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้พยายาม ที่จะหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้พล.อ.ณัฐพล แต่ก็ขยับไม่ออกเพราะทุกตำแหน่งที่เป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ถูกวางตัวไว้หมดแล้ว แม้แต่จะเคยคิดว่าจะเปลี่ยนตัวรมช.กลาโหม ให้ “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ไปพักผ่อน เพราะเป็นมาแล้ว 3 ปี เพื่อเปิดทางให้ พล.อ. ณัฐพล ลาออกจากกองทัพบก ลาออกจากการเป็นทหาร มาเป็นรมช. กลาโหมแทน แต่ดูเหมือนว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พี่ใหญ่ จะยังต้องการให้ พล.อ.ชัยชาญ ทำหน้าที่ รมช. กลาโหมต่อไป ดังนั้นโอกาสที่ พล.อ.ณัฐพล จะได้ย้ายโอนจากข้าราชการทหารกระทรวงกลาโหม มาเป็นข้าราชการพลเรือนในตำแหน่ง เลขา สมช. จึงมีความเป็นไปได้สูง และเป็นสูตรที่ลงตัวที่สุด แม้ว่าพล.อ.ณัฐพล เองจะมองว่าตนเอง ไม่ถนัดงาน สมช. ก็ตาม ไม่มีใครเดือดร้อน คงมีแต่ พล.อ.ณตฐพล ที่ต้องร้องเพลงรอไปอีก 1 ปี !