วันเกิดปีที่ 71 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ปีนี้ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะลดโทนความร้อนแรงทางการเมืองลงไปอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงคำพูดจากใจ ของคนไกลบ้าน จากเมืองไทยยาวนานถึง 14 ปี ท่าทีที่ซอฟท์ลง หลีกเลี่ยง การวิพากษ์วิจารณ์การเมือง จากอดีตนายกฯทักษิณ ทั้งที่จังหวะนี้ รัฐบาลของ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและเจ้าของรหัส “สนามไชย1” กำลังอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า “รับศึกหลายทาง” แต่อดีตนายกฯทักษิณ กลับไม่ร่วมถล่มจนผิดวิสัย “วันนี้ผมอายุครบ 71 ปีแล้ว ต้องกราบขอบคุณทุกๆ ท่านที่ได้อวยพรมาทั้งทางตรง และผ่านทางเมืองไทย บางคณะก็ได้ไปทำบุญให้ผมด้วย ผมบอกได้อย่างเดียวว่ารู้สึกซาบซึ้ง และคิดถึง ทั้งที่ผมจากเมืองไทยมาเกือบ 14 ปีแล้ว แต่ก็มีสิ่งดีๆ เข้ามาทำให้ผมมีกำลังใจ วันเกิดปีนี้ผมได้รับของขวัญพิเศษ ผมกำลังจะมีหลานอีกคนจากน้องอิ๊งค์ลูกรักคนเล็กของผม คงจะคลอดปลายมกราคม หรือต้นกุมภาพันธ์ปีหน้า ช่วงลำบากของทุกๆ คน จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผมอยากจะฝากคลิปของฝรั่งอันนี้ไว้ให้ทุกคนไปชม ผมได้รับมาจากเพื่อนต่างชาติ ผมฟังแล้วรู้สึกว่าน่าจะเป็นกำลังใจที่ดีให้ทุกคนในยามนี้ ผมดูแล้วชอบมากเลยส่งมาให้ลูกๆ ก็เลยขอแชร์ให้กับคนไทยทุกคนได้เป็นกำลังใจครับ” ทักษิณ โพสต์ข้อความดังกล่าวผ่านเฟชบุคส่วนตัว เพื่อขอบคุณ ทุกคำอวยพร ทุกถ้อยคำล้วนบ่งบอกถึง “ความสุข” ของคนที่กำลังจะเป็น “คุณตา” ของหลานๆ สะท้อนถึง ความสุขจาก “ครอบครัว” โดยที่ไม่มีการส่งสัญญาณ อย่างใดอย่างหนึ่งในทางการเมือง ถึง “ใคร” เหมือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเมื่อมองกลับมาที่พรรคเพื่อไทย เองแม้จะเป็น “พรรคแกนนำฝ่ายค้าน” และเป็นพรรคการเมืองที่มีส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร แต่กลับพบว่า ภายในพรรคเต็มไปด้วยบรรยากาศที่บรรดา “แม่ทัพนายกอง” ต่างเหนื่อยล้า เกมรุกไล่ฝ่ายรัฐบาลสภาฯกี่นัด ต่อกี่นัดที่ผ่านมา ก็กลายเป็นว่า “พรรคการเมืองหน้าใหม่” อย่าง “พรรคอนาคตใหม่” จนมาถึงยุค “พรรคก้าวไกล” สามารถ “ทำแต้ม” จัดส.ส. หน้าใหม่ๆขึ้นมา “ถล่ม” รัฐบาล กลางสภาฯ ชิงความโดดเด่นไปซึ่งหน้า จนทำให้แม้แต่ส.ส.พรรคเพื่อไทยเองยังอดตั้งคำถามด้วยกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น ! ยิ่งเมื่อวันนี้ เกมการเมืองที่เปิดปฏิบัติการเคลื่อนไหว “นอกสภาฯ” อาศัย “คนรุ่นใหม่” ออกมาขับไล่รัฐบาล จนสามารถ “ชิงพื้นที่ข่าว” ก็ยังกลายเป็นกิจกรรมที่มี แกนนำคณะก้าวหน้า และ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล เปิดหน้าสนับสนุน ทั้งทางตรง และทางอ้อม ส่งผลให้ ใครก็ตามที่สังกัดพรรคก้าวไกล และมีความเชื่อมโยงกับคณะก้าวหน้า “ได้ใจ” จากกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่า มีจำนวนไม่น้อย และกำลังเป็นประเด็นที่ “ฝ่ายความมั่นคง” หนักใจ ! หมายความว่า บนกระดานการเมืองในเวลานี้ ที่ยืนของพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ถูกบดบังด้วยพรรคก้าวไกล พรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง ไปอย่างสิ้นเชิง อาการเหนื่อยล้า ที่เกาะกินภายในพรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหา ความขัดแย้งระหว่าง “กลุ่มการเมือง” กันเองที่ต่างไม่ยอมรับบทบาท “การนำ” ของอีกฝ่าย ทุกกลุ่มก๊วนอยู่ในสภาพ ต่างคนต่างเดิน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ กับกลุ่มสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และที่เป็น “ปัจจัย” ทำให้การยึดโยง ระหว่างส.ส.ในพรรคไม่แน่นแฟ้น ว่ากันว่ายังเป็นผลมาจากการที่ “นายใหญ่” อย่างอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ได้ “ดูแล” ให้ส.ส.ในพรรค “กินอิ่ม นอนอุ่น”เหมือนในอดีต เมื่อท่อน้ำเลี้ยงตีบตัน การมองหา “ที่หมายใหม่” จึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก วันนี้ ไม่มี “ใคร” ที่จะประกาศตัว “สู้”เพื่ออดีตนายกฯทักษิณ อีกแล้ว เพราะไม่เพียงแต่ “นายใหญ่” จะยังไม่มีกำหนด “กลับไทย” ไปแล้ว ไปลับ ยังกลายเป็นว่า “ศัตรู” ของ “นายใหญ่” อย่าง รัฐบาลคสช. อาจเป็น “น้ำบ่อใหม่” ที่สามารถ “ให้การดูแล” บรรดาแม่ทัพนายกอง ทั้งในสภาฯ ไปจนถึง “พี่น้องคนเสื้อแดง” ให้กินอิ่ม และเรียนรู้ว่า “ประชาธิปไตยกินได้” นั้นเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่ “นายใหญ่” เลือกที่จะ “นิ่ง” ทิ้งระยะห่างทางการเมืองเป็นเพราะวันนี้ “ความสุข” ของทักษิณ คือการ “หมดห่วง” เมื่อ “พานทองแพ้ ชินวัตร” บุตรชาย พ้นจากบ่วงคดีฟอกเงินกรุงไทย ไปเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอว่า การผลักดัน “กฎหมายนิรโทษกรรม” ที่มีสว.ในสังกัดของ คสช.อย่าง “คำนูณ สิทธิสมาน” ออกมาส่งสัญญาณให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนจากความผิดที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2548-2563 จะเป็นรูปเป็นร่าง ขึ้นมาเมื่อใด และมีโอกาสที่ “นายใหญ่” จะได้อานิสงน์ร่วมขบวนรถไฟสายนิรโทษกรรม หรือไม่?!