นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า... *ข้อโต้แย้งต่อสนช. -ผมฟังนายธานี อ่อนละเอียด อดีตสนช.แถลงข่าวที่รัฐสภา เมื่อ 29 ดค.2563 โดยใช้เวลาแถลงข่าวถึง 55.18 นาทีกรณีนายวรวุทธ อยู่วิทยา ร้องขอความเป็นธรรมต่อสนช.และนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ผมมีข้อโต้แย้งต่อคำแถลงของอดีตสนช. ดังนี้ 1.ที่ท่านอ้างว่า พยานที่พนักงานสอบสวนได้สอบไว้ คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ให้การว่า รถของนายวรวุทธ อยู่วิทยา ขับรถด้วยความเร็ว 177กม./ชม. แต่ผู้ต้องหาโต้แย้งว่าตนเองขับไม่เกิน 80 กม./ชม.เมื่อมีข้อโต้แย้ง สนช.จึงต้องนำพยานที่เป็นกลางมาให้ความเห็น *ผมขอโต้แย้งว่า 1. พยานที่สนช.นำมา ไม่น่าจะถือว่าเป็นพยานที่เป็นคนกลาง เพราะ"คนกลาง"ต้องได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย แต่กรณีนี้น่าจะเป็นกรณีที่ผู้ต้องหาประสงค์อ้างคำให้การของพยานปากนี้ สนช.จึงส่งคำให้การของพยานปากนี้ไปให้อัยการ พยานปากนี้จึงถือว่าเป็นพยานของฝ่ายผู้ต้องหา ไม่ใช่พยานที่เป็นคนกลางอย่างที่ท่านอ้าง 2.หากสนช.หรือ อัยการ เห็นว่าความเร็วของเฟอร์รารี่ อยู่ที่ 76 กม./ชม. แทนที่จะเป็น 177กม./ชม.ก็ควรให้ดร.สธน ได้มีโอกาสชี้แจง หรือ โต้แย้ง เพราะดร.สธน ผมถือว่าเป็นพยานที่"เป็นกลาง" กล่าวคือ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแต่เป็นพยานที่พนักงานสอบสวนเชิญมาให้ความเห็น แต่แปลกที่ ตอนแรกพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเชื่อพยานปากนี้ แต่ต่อมากลับไม่เชื่อพยานปากนี้ขึ้นมาเฉยๆ โดยมิได้ให้เหตุผลว่า เหตุใดจึงกลับใจไม่เชื่อพยานปากนี้ 3.ท่านอดีต สนช.แถลงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ (พตต.ธนสิทธิ) ที่เคยให้การไว้ว่า นายวรวุทธ อยู่วิทยา ขับรถ 177 กม./ชม. หลังจากนั้น 4 ปี มาให้การใหม่โดยทำรายงานต่อหน้าผู้บังคับบัญชาว่า ได้คำนวณใหม่แล้ว ได้ความเร็วเพียง 79.23 กม./ชม. น่าสงสัยว่า การแก้ไขคำให้การทำไมจึงทำต่อหน้าผู้บังคับบัญชา ปกติ ผู้เชี่ยวชาญจะทำความเห็นโดยอิสระ แต่กรณีนี้ เมื่อจะกลับคำให้การเดิม ได้ทำต่อหน้าผู้บังคับบัญชา ในความเห็นผม ถือว่าน่าสงสัย 4.พตต.ธนสิทธิ ให้การว่า คำนวณความเร็วผิดเป็นเพราะวัดระยะที่เกิดเหตุผิดพลาด จึงไปวัดใหม่ ผมขอโต้แย้งว่า การวัดจุดเกิดเหตุ ภายหลังหลายปีจะเอาอะไรเป็นจุดหมาย เนื่องจากเศษวัสดุที่เกิดจากการชน รอยเลือด และรถที่ชนกันได้ถูกเคลื่อนย้ายไปหลายปีแล้ว แล้วจะไปวัดอะไรประการสำคัญ หากดูข่าวย้อนหลัง ตะเห็นว่า ได้มีการวัดที่เกิดเหตุไว้อย่างละเอียดในวันเกิดเหตุแล้ว 5.รายนามคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ของสนช. มีผบ.ตร.และอดีตผบ.ตร.อีก 2 คน เป็นกรรมาธิการ และมีอดีตอัยการสูงสุดเป็นกรรมาธิการอยู่ด้วย กรรมาธิการนี้ มีความขัดแย้งมีส่วนได้เสียในหน้าที่ของตนเอง เมื่อผบ.ตร.เป็นกรรมาธิการอยู่ด้วย และมีมติให้ขอความเป็นธรรม ให้ผู้ต้องหาที่หน่วยงานของตนสั่งฟ้องจึงดูแปลก เมื่ออดีตอัยการสูงสุดอยู่ด้วยและกมธ.มีมติให้ขอความความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เรื่องจึงดูแปลก อัยการจึงกลับมติเดิมจากฟ้องเป็นไม่ฟ้อง รองผบ.ตร.ก็กลับมติเป็นไม่ทำความเห็นแย้ง คณะกรรมาธิการชุดนี้จึงถูกกล่าวหาว่า"ฟอกขาว" ให้ผู้ต้องหา เมื่อท่านมีส่วนได้เสีย ท่านจึงไม่ควรรับเรื่องนี้มาพิจารณาตั้งแต่ต้น *ผมเขียนเรื่องนี้ เพราะต้องการความโปร่งใส ให้คนในประเทศนี้มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรร ว่า วันใดวันหนึ่งหากเขาจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เขาสามารถมั่นใจได้ว่า ความจนไม่เป็นอุปสรรคในการไขว่คว้าหาความยุติธรรม/