เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 26 ก.ค.63 ร.ต.ท.พชรพล เผ่าสำราญ รองสว.(สอบสวน) สภ.จอมบึง ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ในซากรถเก๋งที่เกิดเพลิงไหม้ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 112 ม.2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเปิดเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์ หลังได้รับแจ้งเหตุจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง รับทราบ พร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลจอมบึง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี ที่เกิดเหตุพบซากรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซีตรอง สีแดง ทะเบียน กม 6094 ราชบุรี และรถยนต์เก๋งเก่าญี่ปุ่น ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนรถ ลักษณะคล้ายชนท้ายกัน และมีรอยของการถูกไฟไหม้ทั้ง 2 คัน ภายในรถพบโครงกระดูกมนุษย์ซึ่งคาคว่าเป็นของนายธิตินันท์ ภู่สุวรรณ อายุ 43 ปี เจ้าของอู่รับทำเบาะรถยนต์ ถูกเพลิงเผาไหม้จนเหลือแต่โครงกระดูก ในรถยังพบชะแลงเหล็ก 1 นิ้ว ยาว 1.5 เมตร ส่วนกุญแจรถเสียบอยู่ในรูสตาร์ท นอกจากนี้ยังพบถังแก๊สโดนัท ขนาด 45 ลิตร อยู่ภายในใต้เบาะหลังรถ จากการสอบถามนางขวัญเรือน บุญมี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/2 ม.2 ต.บางบัว อ.จอมบึง ซึ่งเป็นพี่สาวของนายธิตินันท์ เล่าว่า เมื่อเวลาหกโมงเย็นวันนี้ น้องสะใภ้ได้โทรมาหาตน ให้เข้ามาดูนายธิตินันท์ เนื่องจากติดต่อไม่ได้ ตนจึงเข้ามาดูที่บ้านซึ่งเปิดเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์ภายในไร่ แต่ปิดกิจการไปแล้ว เมื่อมาถึงตนเห็นสุนัขคาบอะไรมากินอยู่แถวซากรถที่ถูกไฟไหม้ แต่เมื่อเข้าไปและเอาไม้เขี่ยดูพบว่าเป็นตับ ตนจึงหันไปดูที่ซากรถก็พบโครงกระดูกมนุษย์ส่วนขาอยู่ภายในซากรถ จึงรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ จนผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบแล้วว่าเป็นกระดูกมนุษย์จริงๆ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ นางขวัญเรือน ยังเล่าอีกว่า ซึ่งตนเชื่อว่าโครงกระดูกมนุษย์เป็นของน้องชายตน ซึ่งหายตัวไป โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เวลาบ่ายสามโมง ซึ่งน้องชายได้โทรมาหาเพื่อยืมที่ชาร์ทแบต แต่ตนบอกกลับไปว่าไม่มี น้องชายจึงบอกตนกับมาว่า ผมจะรถไปเติมแก๊ส และยังบอกตนว่า ดังแก๊สมันดัง ตนจึงบอกให้ระวังดูให้ดี น้องชายยังตอบตนกลับมาว่า ไม่ใช่ระเบิดละ แล้วก็วางสายไป ซึ่งหลังจากวันนั้น ตนก็ไม่ไดติดต่อน้องชายอีกเลย จนวันนี้น้องสะใภ้วานให้ตนมาดู ถึงจะมารู้ว่าเกิดเหตุแบบนี้ ซึ่งเมื่อวานตนก็มาหักหน่อไม้บริเวณใกล้กัน แต่ตนก็ไม่ได้เข้ามาที่นี้ และไม่รู้เลยว่าเกิดเพลิงไหม้รถ ซึ่งลูกสาวของน้องชายแต่อยู่คนละบ้าน และเพิ่มกลับเมื่อวาน ตอนหกโมงเย็น ก็รู้ว่ามีไฟไหม้รถ แต่ไม่รู้ว่าพ่อของตนเองเสียชีวิตอยู่ภายในซากรถ ที่ผ่านมาน้องชายจะอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว จะไม่เคยไปยุ่งกับใคร และไม่เคยมีปัญหากับใคร ซึ่งตนเชื่อว่าอาจจะเกิดจากวันนั้นที่น้องชายจะเอารถออกไปเติมแก๊ส แล้วแก๊สอาจเกิดระเบิดจนไฟไหม้รถทำให้น้องชายเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า โครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นของ นายธิตินันท์ ที่ขับรถเก๋งคันดังกล่าวจะไปเติมแก๊ส แต่ถังแก๊สโดนัทเกิดมีปัญหา จึงทำให้เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้รถ จนทำให้รถไปชนกับรถเก๋งญี่ปุ่นอีกคันและเพลิงลุกไหม้คลอก นายธิตินันท์ จนเสียชีวิตโดยที่ไม่มีใครทราบ จนพี่สาวมาพบเข้าในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้นำลูกสาวของ นายธิตินันท์ มาตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบโครงกระดูกที่พบเพื่อยืนยัน จากนั้นจะได้มอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป