วันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาการเปรียญวัดบุปผาราม ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถาม พระครูสุวรรณสารวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดปลายคลอง ถึงภาพคลิปจากกล้องวงจรปิดของแก๊งค์มิจฉาชีพที่เข้าไปขโมยทรัพย์สินที่กุฏิพระภายในวัดปลายคลองแล้วหลบหนีไป เพื่อขอทราบรายละเอียดถึงทรัพย์สินและสิ่งของที่สูญหายไป
เจ้าอาวาสวัดปลายคลอง ได้เรียกพระที่ดูแลกุฏิให้นำผู้สื่อข่าวไปยังที่เกิดเหตุ และยอมรับว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปจริง และเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนายสุมิตร เขียวขจี ที่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมภายในวัดได้รู้เห็นและได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด ตรวจสอบและติดตามคนร้าย พร้อมนำสิ่งของมาคืนให้กับทางวัด
หลวงตาเล็ก อายุ 63 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม กล่าวว่า ช่วงที่มีคนร้ายมาไม่ได้อยู่กุฏิ เพราะไปสอนหนังสือ มีพระด้วยกันแจ้งว่า เห็นโยมผู้หญิงหลายคนขึ้นกุฏิ จึงได้เดินทางกลับมาดูพบว่า ของสังฆทานที่วางไว้หน้ากุฏิ หายไปและหายไปเท่าไร แต่ของสังฆทานที่ได้มาทั้งหมดวางไว้หน้ากุฏิ ได้หายไปหมดเลย ทั้ง นม ปลากระป๋อง ของกิน และของใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอกก็หายไปหมด เอาไปหมด อยากจะบอกกับคนร้ายว่า ถ้าคราวหลังมาก็หาตัวเจ้าของกุฏิให้พบแล้วขอกันดีๆก็จะให้ ไป
นายสุมิตร กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 9.18 น. มีหญิงสาว 3 คนขับรถยนต์โตโยต้าสีขาว 4 ประตู เข้ามาภายในวัดแต่กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกใบหน้าไว้ได้ และเวลา 9.27 น.พบว่าหญิงสาวทั้ง 3 คน ได้เดินกลับไปขึ้นรถพร้อมหิ้วสิ่งของออกมาแล้วพากันขึ้นรถขับออกไปและเลี้ยวซ้ายไปทางตลาดเทศบาลเมืองตราด
“ก่อนหน้านั้นเป็นช่วงเวลาที่พระในวัดต้องเข้าศึกษาและเรียนตามปกติ ปรากฏว่ามีพระรูปหนึ่งที่ไม่ได้เข้าเรียน ได้เดินมาที่กุฏิแล้วเห็นมีหญิงสาวเดินเข้าไปภายในกุฏิ แต่เนื่องจากทางวัดปลายคลองจะเข้มงวดในเรื่องของผู้หญิงที่จะเข้ามาในวัดและเข้ามาพบพระในกุฏิไม่ได้ พระรูปดังกล่าวจึงเดินไปแจ้งกับพระที่เรียนว่ามีญาติมาหาที่กุฏิ ปรากฎว่าไม่มีใครทราบจึงได้เดินออกมาดูจึงพบว่ามีสิ่งของที่เป็นเครื่องสังฆทาน น้ำดื่ม หรือสิ่งของที่ญาติโยมได้นำมาถวาย และวางไว้นอกห้องที่ยังไม่เก็บนั้นถูกขโมยไป เจ้าอาวาสจึงให้เปิดกล้องวงจรปิดดูและพบว่ามีคนเข้ามาขโมยไปตามภาพในคลิป ซึ่งได้นำคลิปทั้งหมดส่งมอบให้ตำรวจเพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายแล้ว”
ขณะที่ตำรวจสายสืบ สภ.เมืองตราดกำลังเร่งติดตามและแกะรอย 3 สาวและ 1 ชายผู้ขับรถยนต์ จากป้ายทะเบียนรถยนต์ และรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เจ้าอาวาสวัดปลายคลอง ได้เรียกพระที่ดูแลกุฏิให้นำผู้สื่อข่าวไปยังที่เกิดเหตุ และยอมรับว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปจริง และเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนายสุมิตร เขียวขจี ที่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมภายในวัดได้รู้เห็นและได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด ตรวจสอบและติดตามคนร้าย พร้อมนำสิ่งของมาคืนให้กับทางวัด
หลวงตาเล็ก อายุ 63 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม กล่าวว่า ช่วงที่มีคนร้ายมาไม่ได้อยู่กุฏิ เพราะไปสอนหนังสือ มีพระด้วยกันแจ้งว่า เห็นโยมผู้หญิงหลายคนขึ้นกุฏิ จึงได้เดินทางกลับมาดูพบว่า ของสังฆทานที่วางไว้หน้ากุฏิ หายไปและหายไปเท่าไร แต่ของสังฆทานที่ได้มาทั้งหมดวางไว้หน้ากุฏิ ได้หายไปหมดเลย ทั้ง นม ปลากระป๋อง ของกิน และของใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอกก็หายไปหมด เอาไปหมด อยากจะบอกกับคนร้ายว่า ถ้าคราวหลังมาก็หาตัวเจ้าของกุฏิให้พบแล้วขอกันดีๆก็จะให้ ไป
นายสุมิตร กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 9.18 น. มีหญิงสาว 3 คนขับรถยนต์โตโยต้าสีขาว 4 ประตู เข้ามาภายในวัดแต่กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกใบหน้าไว้ได้ และเวลา 9.27 น.พบว่าหญิงสาวทั้ง 3 คน ได้เดินกลับไปขึ้นรถพร้อมหิ้วสิ่งของออกมาแล้วพากันขึ้นรถขับออกไปและเลี้ยวซ้ายไปทางตลาดเทศบาลเมืองตราด
“ก่อนหน้านั้นเป็นช่วงเวลาที่พระในวัดต้องเข้าศึกษาและเรียนตามปกติ ปรากฏว่ามีพระรูปหนึ่งที่ไม่ได้เข้าเรียน ได้เดินมาที่กุฏิแล้วเห็นมีหญิงสาวเดินเข้าไปภายในกุฏิ แต่เนื่องจากทางวัดปลายคลองจะเข้มงวดในเรื่องของผู้หญิงที่จะเข้ามาในวัดและเข้ามาพบพระในกุฏิไม่ได้ พระรูปดังกล่าวจึงเดินไปแจ้งกับพระที่เรียนว่ามีญาติมาหาที่กุฏิ ปรากฎว่าไม่มีใครทราบจึงได้เดินออกมาดูจึงพบว่ามีสิ่งของที่เป็นเครื่องสังฆทาน น้ำดื่ม หรือสิ่งของที่ญาติโยมได้นำมาถวาย และวางไว้นอกห้องที่ยังไม่เก็บนั้นถูกขโมยไป เจ้าอาวาสจึงให้เปิดกล้องวงจรปิดดูและพบว่ามีคนเข้ามาขโมยไปตามภาพในคลิป ซึ่งได้นำคลิปทั้งหมดส่งมอบให้ตำรวจเพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายแล้ว”
ขณะที่ตำรวจสายสืบ สภ.เมืองตราดกำลังเร่งติดตามและแกะรอย 3 สาวและ 1 ชายผู้ขับรถยนต์ จากป้ายทะเบียนรถยนต์ และรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป