วันนี้ (24 ก.ค.63) เวลา 08.30 น. อำเภอไชโย ร่วมกับ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี และเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง ได้จัดกิจกรรม "ภูมิใจไชโย ร่วมใจให้ชีวิต" โดยออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะ หรือร่างกาย เคลื่อนที่ ณ ศาลาประชาคมอำเภอไชโย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งสิ้น 192 ราย บริจาคโลหิตได้ 161 ราย ดวงตา 2 ราย อวัยวะ 2 ราย และร่างกาย 1 ราย
ว่าที่ร้อยโทอรรถชล ทรัพย์ทวี นายอำเภอไชโย กล่าวว่า สำหรับการบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ รวมทั้งกระดูก และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายนั้น ทางสภากาชาดไทย ยังคงเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตอันกุศลเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอรับการตรวจรักษาอีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประชาชนจำนวนมากที่ได้แจ้งความประสงค์เพื่อบริจาคดวงตา และอวัยวะกับทางสภากาชาดไทย กรณีที่ตนเองเสียชีวิตไปแล้วนั้น แต่เมื่อบุคคลดังกล่าวเสียชีวิตขึ้นมาจริงๆ ก็มักจะไม่สามารถนำเอาอวัยวะไปรักษาผู้ป่วยได้ เพราะทางญาติมักจะไม่ยินยอม ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เช่น หัวใจ ดวงตา หรือเนื้อเยื่อต่างๆ ยังคงขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อการนำไปรักษาผู้ป่วยที่รอคิวรับการรักษา หรือถ่ายอวัยวะอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสภากาชาดไทยจึงได้เน้นการทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยการไปพบปะเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจให้ญาติพี่น้องของผู้ที่จะบริจาคอวัยวะทราบว่า การบริจาคอวัยวะเป็นการสร้างกุศลทานอันยิ่งใหญ่ เพราะทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้ และผู้รับ
ขอขอบคุณผู้มีจิตกุศลที่มาบริจาคทุกคน และขออนุโมทนาบุญด้วย ความดีไม่สิ้นสุดคือการบริจาคอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญเพื่อนำไปใช้ในการปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ขอให้ชีวิตพบแต่ความสุขมีสุขภาพแข็งแรง
ว่าที่ร้อยโทอรรถชล ทรัพย์ทวี นายอำเภอไชโย กล่าวว่า สำหรับการบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ รวมทั้งกระดูก และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายนั้น ทางสภากาชาดไทย ยังคงเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตอันกุศลเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอรับการตรวจรักษาอีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประชาชนจำนวนมากที่ได้แจ้งความประสงค์เพื่อบริจาคดวงตา และอวัยวะกับทางสภากาชาดไทย กรณีที่ตนเองเสียชีวิตไปแล้วนั้น แต่เมื่อบุคคลดังกล่าวเสียชีวิตขึ้นมาจริงๆ ก็มักจะไม่สามารถนำเอาอวัยวะไปรักษาผู้ป่วยได้ เพราะทางญาติมักจะไม่ยินยอม ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เช่น หัวใจ ดวงตา หรือเนื้อเยื่อต่างๆ ยังคงขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อการนำไปรักษาผู้ป่วยที่รอคิวรับการรักษา หรือถ่ายอวัยวะอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสภากาชาดไทยจึงได้เน้นการทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยการไปพบปะเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจให้ญาติพี่น้องของผู้ที่จะบริจาคอวัยวะทราบว่า การบริจาคอวัยวะเป็นการสร้างกุศลทานอันยิ่งใหญ่ เพราะทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้ และผู้รับ
ขอขอบคุณผู้มีจิตกุศลที่มาบริจาคทุกคน และขออนุโมทนาบุญด้วย ความดีไม่สิ้นสุดคือการบริจาคอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญเพื่อนำไปใช้ในการปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ขอให้ชีวิตพบแต่ความสุขมีสุขภาพแข็งแรง