“ ได้เรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ต้นแล้วว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย ตั้งใจที่จะทำงานที่กระทรวงแรงงานต่อ เพื่อจะช่วยนายกรัฐมนตรีในส่วนของเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้แรงงาน” “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าในการปรับครม. ในส่วนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่บัดนี้ดูเหมือนว่าโควตาเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน” กำลังเจอกับแรงสั่นสะเทือน เพราะถูกหมายตา จนมีข่าวสะพัดว่า ที่สุดแล้ว คนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ “จับกัง1” อาจจะไม่ใช่ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” แกนนำพรรค ตามแรงผลักดันของพรรคเสียแล้ว เมื่อแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้เคลื่อนไหวโยนชื่อ “สุชาติ ชมกลิ่น” ประธานส.ส.ของพรรค เข้ามาเปิดหน้าชน ขอนั่งเก้าอี้ “รมว.แรงงาน” เมื่อกระแสข่าวลือเกิดสะพัด และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง อีกทั้งเมื่อล่าสุด “ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล” อดีตหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เก้าอี้รมว.แรงงาน เกิดที่ว่างทันที เมื่อเกิดที่ว่าง จึงมีคนเสนอตัว โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐที่หมายตากระทรวงแรงงาน มาตั้งแต่แรก ทว่าแม้พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะมีแค่ “5 เสียง” ก็ใช่ว่า จะไม่มีฤทธิ์เดช การออกมาให้สัมภาษณ์ของสุเทพ ด้วยการยืนยันและ ทวงคำมั่นสัญญาจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยย้ำว่าตำแหน่งรมว.แรงงาน คือโควตาของพรรค และพรรคเองมีความเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ประยุทธ์ จึงได้มาร่วมงานกัน คือการเคลื่อนไหวที่ต้องการ สร้างน้ำหนัก และการต่อรอง สวนกลับไปยัง “กลุ่มก๊วน” ในพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินหน้าหนุน สุชาติ ประธานส.ส.ของพรรค ผลจะออกมาอย่างไร ล้วนอยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล แต่การออกมา “สำแดงฤทธิ์” ของ สุเทพ รอบนี้ คือการสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว บทบาทการนำพรรค กำหนดทุกความเป็นไปของรวมพลังประชาชาติไทย ล้วนยึดโยงอยู่กับสุเทพ เพียงคนเดียว บทบาทบนถนนสายการเมืองของคนชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นโดดเด่นในทุกจังหวะ ปัจจุบันในวัย 71ปี ต้องยอมรับว่า ในแต่ละบทบาทที่ได้รับ ล้วนแล้วแต่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งบวกและลบ ทั้งดีและร้าย สุเทพ คือนักการเมืองที่มีทั้งบู๊และบุ๋น ครบเครื่องอยู่ในตัว บทบาทในเวทีสภาผู้แทนราษฎร ได้รับการจดจำในฐานะ นักการเมืองฝีปากกล้า เมื่อรับบท “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์” ในยุคที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค ก็ได้สุเทพ ที่มีทั้งคอนเนคชั่นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในครั้งนั้นทำให้พรรคประชาธิปัตย์ โดดเด่น เมื่อวันที่ต้องหันหลังให้สภาฯ ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ แล้วมารับบท “ลุงกำนัน” เป็นแกนนำม็อบกปปส. บนท้องถนน ปลุกมวลชนชัตดาวน์กรุงเทพฯเพื่อเคลื่อนไหวต่อต้าน ขับไล่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขณะเป็นนายกฯ จนทำให้ยิ่งลักษณ์ กลายเป็น “นายกฯนอกทำเนียบฯ” ก่อนถูกยึดอำนาจโดยคสช.ในปี 2557 เมื่อม็อบกปปส. ยุติบทบาทลงไป แต่หลายคนรู้ดีว่า แท้จริงแล้ว “ลุงกำนัน” ในวันวานไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่วันนี้ เปลี่ยนโหมดกลายเป็น “ผู้กำกับ” พรรครวมพลังประชาชาติไทย อยู่หลังม่าน เท่านั้น !