วันนี้ (22 ก.ค.63)นายอรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการ บริษัท โฮปฟูล จำกัด พร้อมด้วย คุณณัฏฐ์ชัญญา พลพัชร์พิชญะ ที่ปรึกษาด้านการตลาด นำทีมผู้บริหารฯ และตัวแทนจำหน่าย จัดงาน "โฮปฟูล แกรนด์โอเพนนิ่ง" พร้อมเปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์สุขภาพดี ดารารุ่นใหญ่ "ปุ๊" มนตรี เจนอักษร พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพตัวช่วยเรื่องกระดูกและข้อ เบต้าแคล สูตรพลัส (BETACAL+) และดาราจิตอาสา "บิณฑ์ บันลือฤทธิ์" พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เบต้าเฮิร์บ (BETAHERB) ตัวช่วยเรื่องเบาหวาน และความดัน เจาะกลุ่มเป้าหมายหลักผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระดูก ความดัน เบาหวาน นายอรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการ บริษัท โฮปฟูล จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเบต้าแคล สูตรพลัส และ เบต้าเฮิร์บ นั้น "Hopeful" คือ ความหวังและเต็มไปด้วยความหวังของการมีชีวิตที่ดี ซึ่งเริ่มต้นจากปกติผมเป็นคนที่ชอบดูแลสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย ชอบหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องโภชนาการ แต่ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทานผักสักเท่าไหร่ จึงเป็นคนหนึ่งที่ทานอาหารเสริมเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่า อาหารหลักอาจไม่เพียงพอ และอาหารเสริมดีๆ ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ พอได้ลองทานแล้วก็รู้สึกดีขึ้นจริงๆ แต่ปัญหาคือราคาค่อนข้างสูงเกินไป สิ่งที่ควรต้องทานเป็นประจำกับต้องมาติดขัดที่เรื่องราคา ผมก็เลยมีความคิดว่าอาหารเสริมดีๆ แบบนี้ ถ้าครอบครัวเรา คนรู้จักของเรา หรือ คนไทยทั้งประเทศ สามารถหาซื้อมาบริโภคได้ ในราคาที่จับต้องได้จะเป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน เพราะว่าสุขภาพที่ดีในวันนี้ ก็คือความหวัง ที่จะทำให้เราไปต่อได้ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ของ Hopeful คือการรวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดนำเข้าจากหลายประเทศที่มีวัตถุดิบที่ดีที่สุด โรงงานการผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐานในระดับสากล และมีเลข อย. (เลขสารบบอาหาร จากองค์การอาหารและยา) ที่ถูกต้องสามารถตรวจสอบได้และปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้ บริษัท โฮปฟูล จำกัด ที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 40 ราย เน้นแพลตฟอร์มทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก มี 2 ตัว คือ เบต้าแคล สูตรพลัส (BETACAL+) และ เบต้าเฮิร์บ (BETAHERB) โดยยึดกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และ ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระดูก ความดัน เบาหวาน ทั้งนี้ปัจจุบันนี้เรามีฐานลูกค้ากว่า 20,000 คน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่กลับมาซื้อซ้ำค่อนข้างมาก แม้ว่าในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะมีการแข่งขันที่สูง แต่เชื่อมั่นว่าแบรนด์ของเราจะสามารถต่อสู่กับคู่แข่งได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่ลูกค้ากำลังประสบอยู่ได้จริง โดยตั้งเป้าว่าปีนี้จะขยายฐานลูกค้าให้ได้ 100,000 คน และคาดว่าในปี 2563 นี้ บริษัทจะมีรายได้ 200 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยมาจากคนไทยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น และในปี 2564 ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มสูงวัยที่ต้องการดูแลสุขภาพ คุณณัฏฐ์ชัญญา พลพัชร์พิชญะ ที่ปรึกษาด้านการตลาด กล่าวว่า แผนการตลาดในปีนี้ จะเน้นการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และการทำการตลาดออนไลน์เป็นหลัก โดยจะมุ่งเน้นที่การขยายฐานลูกค้าออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งเป้างบการตลาดในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท รวมไปถึงการจัดอบรมตัวแทนจำหน่ายให้รักษามาตรฐาน พัฒนาความรู้ความสามารถอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์ คนคุณภาพ และเป็นผู้ใช้จริงมาทำการสื่อสารแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น คนแรกคือ คุณปุ๊-มนตรี เจนอักษร ดารานักแสดงนักพากษ์ที่มีชื่อเสียง พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพตัวช่วยเรื่องกระดูกและข้อ เบต้าแคล สูตรพลัส (BETACAL+) ซึ่งคุณปุ๊อายุขึ้นหลัก6 แต่ยังสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง กระฉับกระเฉง คล่องแคล่วอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคุณสมบัตินี้ตรงกับผลิตภัณฑ์ เบต้าแคล สูตรพลัส (BETACAL+) มาก อีกทั้งคุณปุ๊ยังเป็นผู้ใช้จริง ซึ่งเห็นผลลัพธ์ด้วยตัวเอง จึงทำให้สามารถสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี และคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เบต้าเฮิร์บ (BETAHERB) ตัวช่วยเรื่องเบาหวาน และความดัน ซึ่งทราบกันดีว่าคุณบิณฑ์ เป็นดาราจิตอาสา ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จนได้รับฉายากู้ภัยใจพระ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เราต้องการนำเสนอว่า เบต้าเฮิร์บ (BETAHERB) จะเป็นตัวช่วยเรื่องสุขภาพให้คนไทยโดยเฉพาะเรื่องเบาหวาน และความดันที่เป็นปัญหาสุขภาพอันดับต้นๆ ของคนไทยในตอนนี้ นอกจากนั้น ทางบริษัทฯ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจลูกค้า ซื้อ 1 แถม 2 ในราคาพิเศษเพียง 4,190 บาท จากราคาเต็ม 8,970 บาท ทั้ง ผลิตภัณฑ์ เบต้าแคล สูตรพลัส (BETACAL+) และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เบต้าเฮิร์บ (BETAHERB) เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลสุขภาพเกิดการตัดสินใจซื้อง่ายยิ่งขึ้น และเป็นการกระตุ้นยอดขายให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น