ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(22 ก.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ1,374.21 จุด ลดลง 2.79 จุด (-0.20%) มูลค่าการซื้อขายราว 33,746.31ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,382.29 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,370.40 จุด นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ เป็นลักษณะของการพักตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่ หลังจากปรับขึ้นไปตอบรับปัจจัยบวกสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรไปแล้ว ซึ่งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียขึ้นนำตลาดยุโรปและสหรัฐฯ แต่ยังมีปัจจัยกระตุ้นจากความคาดหวังฝั่งสหรัฐฯออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันตลาดฯยังเผชิญแรงถ่วงจากปัจจัยในประเทศ ทั้งเรื่องการเมืองในประเทศที่ขณะนี้การปรับคณะรัฐมนตรียังไม่ชัดเจน และผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 2/63 โดยรวมออกมาแย่กว่าตลาดคาดไว้ เป็นผลจากการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นมาก ทำให้มองว่าหากจะลงทุนหุ้นในกลุ่มแบงก์คงต้องรอไปก่อน และคาดว่ากองทุนก็คงจะลดน้ำหนักลงทุนกลุ่มแบงก์ด้วย โดยวันนี้ติดตามศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่พิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน และการปลดล็อกดาวน์เฟส 6 แต่เขื่อว่าจะไม่สร้าง Surprise ให้กับตลาดฯ รวมทั้งติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อน โดยมีแนวรับ 1,365 จุด ส่วแนวต้าน 1,380-1,392 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ STA มูลค่าการซื้อขาย 1,901.39 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 1.75 บาท,PTLมูลค่าการซื้อขาย 1,720.28 ล้านบาท ปิดที่ 22.80 บาท ลดลง 0.20 บาท,BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,629.96 ล้านบาท ปิดที่ 104.00 บาท ลดลง 4.50 บาท,CPFมูลค่าการซื้อขาย 1,539.35 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท,STGT มูลค่าการซื้อขาย 1,438.37 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท ลดลง 5.00 บาท