เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 ก.ค. ร.ต.อ.จิรภัทร แปงใจ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 363/1 ถนนราชพฤกษ์ ก่อนเบี่ยงขวาขึ้นทางต่างระดับวุฒากาศ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตธนบุรี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ปลูกอยู่ริมถนนในรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ด้านหน้าเปิดเป็นเพิงขายข้าวหมูแดงหมูกรอบชื่อร้านแมสเซนเจอร์ เจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งจากในบ้านพักชั้นล่าง ก่อนลุกลามขึ้นบนชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงรีบวางหัวฉีดเข้าสกัดกั้น ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ สำรวจความเสียหายเบื้องต้นพระเพลิงโหมกินพื้นที่ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ราว 40 ตารางเมตร
จากการตรวจสอบบริเวณห้องโถงชั้นล่างพบศพ นายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ สภาพศพนอนคว่ำหน้า เสื้อผ้าถูกไฟไหม้จนหมด เนื้อตัวตามผิวหนังถูกไฟเผาทั้งร่างจนเริ่มเกรียม เจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้หน่วยกู้ภัยนำไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช ก่อนติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศล
สอบถาม นางนันทวัน ทิมเย็น อายุ 56 ปี อดีตน้องภรรยาผู้ตายซึ่งพักใกล้กัน ให้ข้อมูลว่า นายอนันต์ เคยมีครอบครัวแล้ว แต่ปัจจุบันเลิกรากับพี่สาวตน ส่วนลูกหลานก็ไม่ได้มาพักอาศัยหรือช่วยขายข้าวหมูแดงหมูกรอบแต่อย่างใด ปกติในทุกๆวัน เจ้าตัวจะตื่นตั้งแต่ตี 1 ไปตลาดซื้อของสดมาเตรียมขาย ก่อนเปิดร้านไม่เกินตี 5 ของทุกวัน ซึ่งแต่ละวันประมาณบ่าย 2 ก็จะเก็บร้านเพราะลูกค้าเยอะของหมดไว จะมีก็เพียงลูกจ้างผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี มาช่วยขายและเก็บล้างบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น โดยก่อนเกิดเหตุคาดว่า นายอนันต์ น่าจะหลับพักผ่อนอยู่ในบ้านพอเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจึงหนีออกมาไม่ทันเป็นเหตุให้สำลักควันและหมดสติก่อนโดนไฟคลอกดังกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อประมาณปี 2560 นายอนันต์ ผู้เสียชีวิตและภรรยา เคยเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยตามหา น.ส.นันทิยา หรือออย แสงอุไร อายุ 37 ปี ลูกสาวที่หายสาปสูญไป โดยเชื่อว่า การหายตัวไปของลูกสาวน่าจะเกี่ยวข้องกับ นายซีม่อน บินตัน อายุ 53 ปี ชาวอิสราเอลผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ นายเฮลิยาฮู โคเฮน อายุ 63 ปี อดีตตำรวจเพื่อนร่วมชาติ โบกปูนในท้องที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อปี 2559 ซึ่งตั้งแต่ครั้งนั้นทางครอบครัวก็ยังไม่ได้ข่าวความคืบหน้าของ น.ส.นันทิยา อีกเลย อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดเหตุทั้งอดีตภรรยา ลูกชาย และลูกสาวคนเล็ก ของ นายอนันต์ ก็ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุโดยพากันกอดคอร้องไห้ และไม่ประสงค์จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด.
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ปลูกอยู่ริมถนนในรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ด้านหน้าเปิดเป็นเพิงขายข้าวหมูแดงหมูกรอบชื่อร้านแมสเซนเจอร์ เจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งจากในบ้านพักชั้นล่าง ก่อนลุกลามขึ้นบนชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงรีบวางหัวฉีดเข้าสกัดกั้น ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ สำรวจความเสียหายเบื้องต้นพระเพลิงโหมกินพื้นที่ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ราว 40 ตารางเมตร
จากการตรวจสอบบริเวณห้องโถงชั้นล่างพบศพ นายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ สภาพศพนอนคว่ำหน้า เสื้อผ้าถูกไฟไหม้จนหมด เนื้อตัวตามผิวหนังถูกไฟเผาทั้งร่างจนเริ่มเกรียม เจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้หน่วยกู้ภัยนำไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช ก่อนติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศล
สอบถาม นางนันทวัน ทิมเย็น อายุ 56 ปี อดีตน้องภรรยาผู้ตายซึ่งพักใกล้กัน ให้ข้อมูลว่า นายอนันต์ เคยมีครอบครัวแล้ว แต่ปัจจุบันเลิกรากับพี่สาวตน ส่วนลูกหลานก็ไม่ได้มาพักอาศัยหรือช่วยขายข้าวหมูแดงหมูกรอบแต่อย่างใด ปกติในทุกๆวัน เจ้าตัวจะตื่นตั้งแต่ตี 1 ไปตลาดซื้อของสดมาเตรียมขาย ก่อนเปิดร้านไม่เกินตี 5 ของทุกวัน ซึ่งแต่ละวันประมาณบ่าย 2 ก็จะเก็บร้านเพราะลูกค้าเยอะของหมดไว จะมีก็เพียงลูกจ้างผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี มาช่วยขายและเก็บล้างบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น โดยก่อนเกิดเหตุคาดว่า นายอนันต์ น่าจะหลับพักผ่อนอยู่ในบ้านพอเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจึงหนีออกมาไม่ทันเป็นเหตุให้สำลักควันและหมดสติก่อนโดนไฟคลอกดังกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อประมาณปี 2560 นายอนันต์ ผู้เสียชีวิตและภรรยา เคยเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยตามหา น.ส.นันทิยา หรือออย แสงอุไร อายุ 37 ปี ลูกสาวที่หายสาปสูญไป โดยเชื่อว่า การหายตัวไปของลูกสาวน่าจะเกี่ยวข้องกับ นายซีม่อน บินตัน อายุ 53 ปี ชาวอิสราเอลผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ นายเฮลิยาฮู โคเฮน อายุ 63 ปี อดีตตำรวจเพื่อนร่วมชาติ โบกปูนในท้องที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อปี 2559 ซึ่งตั้งแต่ครั้งนั้นทางครอบครัวก็ยังไม่ได้ข่าวความคืบหน้าของ น.ส.นันทิยา อีกเลย อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดเหตุทั้งอดีตภรรยา ลูกชาย และลูกสาวคนเล็ก ของ นายอนันต์ ก็ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุโดยพากันกอดคอร้องไห้ และไม่ประสงค์จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด.