อธิบดีกรมการค้าภายในเตรียมใช้กฎหมายแก้หมูแพง เบื้องต้นขอความร่วมมือผู้เลี้ยง-ผู้ค้าขายหมูหน้าฟาร์มไม่เกินกิโลกรัมละ 80 บาท หมูเนื้อเขียงกิโลกรัมละ 150 บาท และเนื้อสันกิโลกรัมละ 160 บาท หากราคายังไม่ลดลง จ่อกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุดและจำกัดการส่งออก พร้อมนำหมูราคาถูกขายผ่านแม็คโคร พาณิชย์จังหวัด กิโลละ 130 บาทลดค่าครองชีพ นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาหมูเป็นสูงกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท ส่วนเนื้อหมูสูงกว่าราคา 160 บาท ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น ราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากโรค ASF หรือโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูที่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านและจีน ซึ่งเป็นตลาดนำเข้าหลัก ทำให้ความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้น จากเดิมส่งออกวันละ 5,000-6,000 ตัวต่อวัน เป็นกว่า 10,000 ตัวต่อวัน โดยมาตรการคลายล็อกดาวน์ทำให้ธุรกิจร้านอาหารกลับมาให้บริการเพิ่มขึ้น รวมทั้งสภาพอากาศร้อนและแล้งนาน ทำให้หมูโตช้าน้ำหนักน้อยทำให้ผลผลิตลด ส่วนการเพิ่มผลผลิตต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กรมการค้าภายในได้ตกลงร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้ค้ากำหนดราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มกิโลกรัมละไม่เกิน 80 บาท ส่วนหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท และหมูเนื้อสัน กิโลกรัมละ 160 บาท หากสถานการณ์ราคายังไม่คลี่คลายจะใช้กฎหมายบังคับ โดยเสนอคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร.กำหนดราคาจำหน่ายสูงสุดและจำกัดการส่งออก ขณะเดียวกันจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาตามตลาดสดทั่วไปและทำความเข้าใจกับผู้ค้าให้ขายเนื้อหมูสอดคล้องกับราคาหมูเป็น และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตลาดหลายแห่งยังขายราคาสูง เช่น ตลาดพรานนก ตลาดรามอินทรา ดาวคะนองขายกิโลกรัมละ 170-175 บาท จึงขอความร่วมมือให้ขายตามราคาที่กำหนด ทั้งนี้หากเพิกเฉยจะมีโทษตามกฎหมาย มีการโก่งราคาโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท และหากขายเกินป้ายราคามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้บริโภคพบว่ามีการขายเกินราคา สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 และวันพรุ่งนี้(22 ก.ค.) กรมการค้าภายในจะร่วมกับห้างแม็คโครเปิดขายเนื้อหมูราคาประหยัดกิโลกรัมละ 130 บาท เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนในขณะนี้