"สันติ" เผย "อุตตม" ลาออกปธ.กมธ.งบฯ แล้ว มั่นใจไม่สะดุด เชื่อมั่น "บิ๊กตู่"ปรับครม. พร้อมร่วมงาน "ปรีดี" ด้าน"บิ๊กป้อม"บอกไม่เคยมีสัญญาใจยกเก้าอี้รมว.พลังงานให้"สุริยะ" ส่วน"ไพบูลย์"เตรียมชง"สุริยะ"นั่ง รมว.พลังงานแทน"สนธิรัตน์" พร้อมค้าน "ไพรินทร์" เชื่อมีผลประโยชน์ทับซ้อนนั่งตำแหน่งไม่ได้ ขณะที่ "มติชพน."ให้ "เทวัญ" ทิ้งรมต.ประจำสำนักนายกฯ ปัดหลีกทาง "นฤมล"เสียบแทน ขณะที่ "บิ๊กช้าง" ชงสตช.วางกรอบดูแลม็อบชุมนุมต่อเนื่องหลายจังหวัด ลั่นรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่การใช้สิทธิเสรีภาพต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น-ไม่มีนัยแอบแฝง-ไม่ละเมิดสถาบันโดยเด็ดขาด จับตา "ปปช."ชี้มูลความผิด "บิ๊กการเมือง" ยุค "ยิ่งลักษณ์" พันคดีจัดอีเวนต์พีอาร์ 240ล้าน ปลายสัปดาห์นี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.63 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง ได้ลาออกจากประธานคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2564 แล้ว และตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ยืนยันการทำงานของคณะกมธ.ไม่ได้รับผลกระทบแต่ประการใด เพราะเรามีประธานถึง 21 คน นายสันติ ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ทราบดีว่าเป็นอำนาจของนายกฯเพียงผู้เดียว ถ้าจะให้ความเห็นก็จะเป็นการสับสน เราต้องเชื่อมั่นในตัวนายกฯในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม เพราะท่านเป็นคนเก่ง ขยัน ทำจริง เสียสละทำงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อบ้านเมือง งั้นเราต้องเคารพและเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย จะมาเป็นรมว.คลัง คิดว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังเป็นข่าวอยู่ และไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมด้วย เพราะเชื่อมั่นในนายกฯ ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เรื่องปรับครม.ต้องถามนายกฯ เพราะนายกฯเป็นคนเดียวที่จะตัดสินใจว่าจะให้ใครอยู่ ใครไป เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.จะมีการห้ามปรามลูกพรรคให้หยุดเคลื่อนไหวเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ เพื่อให้เป็นอำนาจของนายกฯ คนเดียว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาหยุดอยู่แล้ว ไม่มีอะไรหรอก เมื่อถามย้ำว่า มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรมีสัญญาใจกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในเรื่องที่จะให้มานั่งรมว.พลังงาน ตั้งแต่ก่อนมาร่วมรัฐบาลจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "สัญญาใจไม่มี คุณไปเอาสัญญาใจที่ไหนมา ผมไม่เคยมีสัญญาใจอะไรกับใคร" เมื่อถามถึงกรณี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ลาออกจากรมต.ประจำสำนักนายกฯ จะทำให้ปรับ ครม.เร็วขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การปรับเร็วหรือช้าอยู่ที่นายกฯ ไม่ใช่การลาออกของรัฐมนตรี ครม.สามารถมีคนทดแทนได้ตลอด มีปลัดกระทรวง รัฐมนตรีช่วยว่าการ ใครจะลาออกก็มีคนทดแทนอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ยืนยันว่าเรื่องการปรับ ครม.ให้ถามนายกฯ ถามตนๆ ไม่รู้หรอก เมื่อถามว่า ตกลง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร สั่นหัวก่อนเดินขึ้นรถยนต์ออกไปทันที ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงการปรับ ครม. ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน ที่มีข่าวว่า นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรมช.คมนาคม และผู้บริหาร ปตท. จะมาเป็น รมว.พลังงาน แทน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่า การโยนชื่อนายไพรินท์ออกมา คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นทั้งอดีตผู้บริหาร ปตท.แล้วจะตอบคำถามเรื่องผลปรโยชน์ทับซ้อนอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมพรรค ตนจะเสนอ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นรมว.พลังงาน เพราะเป็นกระทรวงเดิมของอดีตเลขาฯ พรรค หากพรรคไม่ได้ดูแลจะอธิบายกับ ส.ส.ของพรรคไม่ได้ ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงถายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า ที่ประชุม มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ลาออกจากตำ แหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ปรับ ครม.อย่างสบายใจ แต่ยังทำงานสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิม ยืนยันว่าไม่ยึดติดกับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ร่วมรัฐบาล ถึงแม้จะมี 3 เสียง แต่นายกฯก็ได้ความเมตตาให้ตำแหน่ง แต่วันนี้เรามี 4 เสียง และได้แจ้งให้นายกฯทราบแล้วก็ขอบคุณ ยืนยันว่าไม่กระทบกระเทือน และไม่มีการแตกแยกในรัฐบาลแน่นอน เราพร้อมสนับสนุนให้นายกฯจัดทัพ จัดทีมที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศ ผ่านวิกฤติไปได้ เมื่อถามว่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ จะมารับตำแหน่งแทนนายเทวัญ ใช่หรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ให้เป็นเรื่องของนายกฯ ตัดสินใจเอง และนายกฯ ได้ขอบคุณที่พรรคเรา พร้อมช่วยสร้างเสถียรภาพแก่รัฐบาลและทุกวันนี้พรรคฯ อยู่ตรงกลาง "รัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถ้ารัฐบาลแก้ไขเศรษฐกิจได้ ประ ชาชนยอมรับรัฐบาลก็อยู่ได้นาน เราตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของสถานการณ์การเมือง เราเล่นการเมืองมานาน บ้านเมืองไม่เคยเจอวิกฤติที่สาหัสแบบนี้ ประชาชนกังวลในการใช้ชีวิต และธุรกิจทาง ถึงเวลาตัดสินใจที่พรรค ต้องตัด สินใจ พรรคขอยืนยันที่จะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลต่อไป และพร้อมที่จะเปิดทางให้นายกฯ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และท่านได้กล่าวขอบคุณที่เรามีแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ยืนยันว่าไม่มีความกดดันหรือการทะเลาะเบาะแว้ง บรรยากาศเป็นไปด้วยดี" ด้าน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวยืนยันว่า การลาออกไม่ได้มีกระแสกดดันใดๆ ต่อมติพรรค และขอบคุณนายกฯที่ให้โอกาส เมื่อถามว่า เป็นคำสั่งของ พล. อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ใช่หรือไม่ เพื่อที่จะให้นางนฤมลมานั่งตำแหน่งนี้ นายเทวัญ กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของรองนายกฯ ที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่เต็มที่ในการทำงาน และทำตามบังคับบัญชาของนายกฯมาโดยตลอด ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจา ต่อนายกฯ ถึงการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH และกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การชุมนุมทางการเมืองในยุคสมัยนี้ สิ่งที่ควบคู่ไปด้วยคือการชุมนุมในโลกเสมือนจริง การชุมนุมในโลกออนไลน์ และยังมีการชุมนุมต่อเนื่องในต่างจังหวัดด้วย และรัฐบาลจะมีวิธีการบริหารจัดการหรือสื่อข่าวสารไปยังผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะตลอด 2-3 วันมานี้ข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่อยู่ในโลกเสมือนจริงและน่าเป็น ห่วง และสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้มาชี้แจงแทน กล่าวว่า นายกฯ ห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และห่วงใยต่อผู้ชุมนุมด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับการบริหารจัดการการชุมนุมเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพของผู้แสดงออกทางการเมืองนั้น รัฐบาลได้มอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่ในการดูแลเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และไม่เกิดผลกระทบกับประชาชน หรือถ้าเกิดก็ต้องเกิดให้น้อยที่สุด โดยให้เจ้าหน้าที่มีความอดทนอดกลั้น ใช้การชี้แจงกับผู้ชุมนุมถึงข้อกฎหมาย สร้างความเข้าใจร่วมกันว่าตรงไหนปฏิบัติได้ ตรงไหนปฏิบัติไม่ได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมมีการสื่อสารกันตลอดเวลา ส่วนการชุมนุมต่อเนื่องในแต่ละพื้นที่ต่อจากนี้ไปนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปทบทวนและกำหนดมาตรการในการดูแลผู้ชุมนุมให้มีความเหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย และต้องไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไปด้วย "ในสาวนของสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่การใช้สิทธิเสรีภาพนั้นต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพคนอื่น ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่มีนัยแอบแฝง และต้องไม่ละเมิดสถาบันโดยเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ตามหน้าที่ที่รับผิดชอบในทุกกรณี" ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นนทบุรี นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลในคดีฮั้วประมูลการจัดงานอีเวนต์ประชาสัมพันธ์โครงการสร้างอนาคตใหม่ประเทศไทย Roadshow Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท โดย นายวรวิทย์ ยอมรับว่า มีนักการเมืองถูกชี้มูลในคดีนี้ตามที่มีข่าวจริง แต่ขณะนี้ ป.ป.ช.กำลังจัดทำรายละเอียดอยู่ ดังนั้นจึงขอให้รอฟังรายละเอียดอีกครั้งในการแถลงของโฆษก ป.ป.ช. ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดโฆษก ป.ป.ช.จะเป็นผู้แถลงในช่วงปลายสัปดาห์นี้ แหล่งข่าว ระบุด้วยว่า คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับรองรายงานการประชุมในการมีมติชี้มูลความผิดคดีนี้ จะมีการแถลงข่าวต่อสาธารณชน เนื่องจากเป็นคดีสำคัญเกี่ยวพันกับอดีตผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล และประชาชนติดตามให้ความสนใจ สำหรับรายชื่อผู้ถูกกล่าวหามีทั้งสิ้น 17 ราย แบ่งเป็น กลุ่มนักการเมืองจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ,นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีต เลขาธิการนายกฯ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 9 ราย ที่เกี่ยวข้องการจัดทำราคากลางและจัดซื้อจัดจ้าง และกลุ่มเอกชน จำนวน 5 ราย จากบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อมวลชน แบ่งเป็นถูกกล่าวหาในนามนิติบุคคล 2 แห่ง ถูกกล่าวหาในนามผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท 2 ราย และผู้บริหารบริษัท 1 ราย โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 17 ราย ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว