ชี้โจ๋ยกพวกตีกันในรพ.บ่อยขึ้น กรมสุขภาพจิตส่งทีมคัดกรองสุขภาพจิตเบื้องต้นให้กับบุคลากรที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ หากพบกลุ่มเสี่ยงกระทบจะส่งต่อจิตแพทย์โดยตรง ย้ำในรพ.ไม่ควรมีความรุนแรง จี้สำนึกสังคมลดความรุนแรง สอนลูกหลาน หากพบมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงให้ปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เหตุการณ์วัยรุ่นวิวาทกันในโรงพยาบาลเริ่มเกิดบ่อยมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือขวัญกำลังใจในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้ รวมถึงอาจส่งผลต่อผู้มาใช้บริการด้านสาธารณสุขอีกด้วย กรมสุขภาพจิตจะดำเนินงานอย่างเร่งด่วนผ่านการทำงานของทีมเอ็มแคทสุขภาพจิตในพื้นที่ โดยจะคัดกรองปัญหาสุขภาพจิตเบื้องต้น คัดกรองความเครียด มีการให้คำปรึกษาสุขภาพจิต การพูดคุยให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โดยตรงและโดยอ้อม เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถดูแลสุขภาพจิตตัวเองได้หลังจากเกิดเหตุการณ์ ตลอดจนมีแนวทางส่งต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตให้เข้ารับการรักษาเฉพาะทางจิตเวช หากพบกลุ่มเสี่ยงที่มีผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรม จะให้มีการพูดคุยกับจิตแพทย์หรือพยาบาลจิตเวชโดยตรง ซึ่งจะมีแผนการดูแลเฉพาะกลุ่มเสี่ยงนี้ โดยการเฝ้าระวังดูแลปัญหาสุขภาพจิต และส่งต่อการรักษาให้หน่วยที่รับผิดชอบต่อไป อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความรุนแรงทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครหรือที่ใดในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่อย่างโรงพยาบาลซึ่งมีผู้ที่กำลังมีความทุกข์ทางกายและทางจิต มารับความช่วยเหลือ เป็นสถานที่ด้านมนุษยธรรมของประชาชนที่ควรปราศจากความรุนแรงในทุกระดับ ซึ่งแม้ในปัจจุบันจะมีการปรับระดับรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้นในหลายๆสถานพยาบาลจากบทเรียนในเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายๆครั้ง แต่จิตสำนึกของสังคมก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในการลดความรุนแรงในโรงพยาบาลให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง โดยจิตสำนึกที่สำคัญที่พ่อแม่และผู้ปกครองควรนำเหตุการณ์นี้สอนบุตรหลาน คือ การมีจิตสำนึกเรื่องการต่อต้านการใช้ความรุนแรง และไม่เห็นว่าความรุนแรงเป็นเรื่องที่ปกติ ซึ่งที่บ้านและโรงเรียนจะต้องเป็นจุดเริ่มต้นและปลูกฝังเด็กในเรื่องของความรุนแรงและการทำร้ายกันทั้งอารมณ์จิตใจและร่างกาย ในวัยเด็กหากถูกใช้ความรุนแรงบ่อยๆจะนำไปสู่การทำร้ายคนอื่นในอนาคต ส่วนเด็กที่เริ่มใช้ความรุนแรง เมื่อทำบ่อยครั้งจนกลายเป็นความเคยชิน จะพัฒนาเป็นความก้าวร้าว ความรุนแรงต่อผู้อื่น ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เป็นอันธพาลหรืออาชญากรได้ ดังนั้น สังคมจึงต้องช่วยกันใส่ใจ เร่งสร้างวัฒนธรรมไร้ความรุนแรงในสังคม ทั้งที่บ้านและในที่สาธารณะ เพื่อลดการสูญเสียคุณภาพประชากรในสังคมที่เกิดขึ้นจากผลกระทบปัญหานี้ในระยะยาว หากผู้ปกครองท่านใดเริ่มเห็นบุตรหลานมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงมากขึ้น สามารถปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ สถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อได้รับการดูแลรักษาจากผู้เชี่ยวชาญต่อไป