ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานีร่วมแถลงข่าวกับกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน วันนี้(20ก.ค.63) ณ กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับพลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะ เดินทางมาประชุมเพื่อหารือแนวทาการดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน กฎหมายหรือ พ.ร.บ.อื่นใด ที่เกี่ยวข้อง ตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ปปง. และ เจ้าพนักงานสรรพากร ในการดำเนินการต่อสู้ผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอนฯ และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ โดยมีหน่วยงานร่วมประชุมฯ 8 หน่วย ประกอบด้วย ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี ศรชล.ภาค ๒/กองอำนวยการร่วมฯ คณะทำงานจังหวัดฯ ศรชล. กรมเจ้าท่า กรมประมง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการพอกเงิน(ปปง.) และ กรมสรรพากร จากนั้นเวลา 15.00 น. พลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 แถลงข่าวกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน โดยแถลงว่า ระยะที่ 1 ของรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อำเภอเมือง และอำเภอพุนพิน ระยะที่ 2 อำเภอกาญจนดิษฐ์ ระยะที่ 3 อำเภอท่าฉางและอำเภอไชยา ผลการดำเนินการของกองอำนวยการร่วม ได้มีการสำรวจ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ที่อำเภอเมือง 93 ขนำ อำเภอพุนพิน 83 ขนำ รวมทั้งสินจำนวน 176 ขนำ มีการรื้อถอนที่อำเภอเมืองจำนวน 10 ขนำ อำเภอพุนพิน 20 ขนำ เป็นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ทางผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 เชิญชวนสื่อมวลชนร่วมติดประกาศการรื้อถอนในวันพรุ่งนี้ เมื่อติดประกาศแล้วจะให้เวลา 15 วันในการรื้อถอน ทุกขนำจะต้องทำการรื้อให้หมดสิ้น ถ้าไม่รื้อถอนว่าไปตามกฎหมาย สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การดำเนินการของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานียืนยันจะแก้ไขปัญหาอ่าวบ้านดอนโดยใช้หลักสันติวิธี การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนโดยใช้กฎหมายเป็นแนวทางเพื่อความเป็นธรรม เพื่อให้การจัดพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอนเป็นไปด้วยความถูกต้อง และเหมาะสม ใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่าอย่างชาญฉลาดและยั่งยืน โดยมี ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะเป็นหน่วยบูรณาการหลัก ที่ผ่านมาผลการดำเนินงานที่สำคัญคือการรักษาความสงบเรียบร้อยยุติปัญหาการกระทบกระทั่งไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยได้รับความร่วมมือของศรชล.ภาค ๒ สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้แต่งตั้งคณะทำงาน 3 ชุด ได้แก่่คณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน คณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริง และคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวบ้านดอนอย่างยั่งยืน โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานแต่ละชุด ชุดที่3 ประกอบด้วยประมงพื้นบ้าน ผู้ประกอบการ เอ็นจีโอ นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ สำหรับการประกาศจังหวัด ให้ผู้บุกรุกได้รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง หรือขนำ ภายใน 60 วัน ถึงกำหนดในวันที่ 10 สิงหาคม 2563นี้ หลังจากนั้นจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะมีการขับเคลื่อนใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป.