ศบค. แถลงไทยมีผู้ติดเชื้อ 7 ราย กลับจากต่างประเทศทั้งหมด ไม่มีตายเพิ่ม ไร้โควิดภายในประเทศต่อเนื่อง 54 วัน ขณะที่คกก.วิชาการ ชี้คนไปสถานที่เดียวกับทหารอียิปต์-เด็กหญิงซูดาน สบายได้มีความเสี่ยงติดเชื้อน้อย หากไม่ได้สัมผัสผู้ป่วย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า รายงานสถานการณ์ของประเทศไทยวันนี้ ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,246 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 58 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 3,096 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 92 ราย ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 54 สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ คัดกรอง ณ ด่านฯ และเข้าพัก State Quarantine -ประเทศสหรัฐอเมริกา 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 64 ปี อาชีพแม่บ้าน และชายไทย อายุ 66 ปี อาชีพช้าราชการบำนาญ เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 11 ก.ค. เข้าพัก State Quarantine ที่กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อในวันที่ 15 ก.ค. ผลตรวจพบเชื้อ โดยผู้ป่วยหญิงมีอาการคอแห้ง และผู้ป่วยชายมีอาการเสมหะ -ประเทศบาร์เรน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 12 ก.ค. เข้าพักState Quarantine ที่จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 16 ก.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ -ประเทศอียิปต์ 4 ราย ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 20,24 (2 ราย) และ 29 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 17ก.ค. โดยผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์ PUI และตรวจหาเชื้อในวันที่ 1 ก.ค. ผลตรวจพบเชื้อ พร้อมส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จ.สมุทรปราการ โดยพบว่ามีอาการ คือ มีน้ำมูก อ เจ็บคอ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ มีข้อสรุปจากคณะกรรมการวิชาการ ของพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ได้แจ้งว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 คือ ผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด พูดคุย หรือคลุกคลี่กับผู้ป่วย ซึ่งในเคสของจ.ระยอง มีเพียง 12 ราย และส่วนเคสซูดาน มี 7 ราย สำหรับผู้ที่ไปสถานที่เดียวกับผู้ป่วย ถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นท่านที่ไปสถานที่เดียวกับผู้ป่วย แต่ไม่ได้พบปะกับผู้ป่วย หรือกลุ่มทหารดังกล่าว ขอให้สบายใจได้ว่าท่านมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะติดเชื้อ แต่หากไม่สบายใจให้เฝ้าระวังสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หรือมีไข้ เป็นเวลา 14 วัน ถ้าไม่มีอาการก็ถือว่าปลอดภัย หากมีอาการดังกล่าวให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที "อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีวินัยในพฤติกรรมส่วนบุคคล คือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และล้างมือบ่อยๆ หรือเลี่ยงไปสถานที่ชุมชนอย่างสม่ำเสมอ"