นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการกับตำรวจระยองที่ทำเกินกว่าเหตุ ควบคุมตัวชายผู้ถือป้ายขณะที่นายกฯลงพื้นที่จังหวัดระยอง ว่าเป็นสิทธิที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย ไม่ใช่มาชูป้ายที่มีคำหยาบคายเช่นนี้ ทั้งนี้ยังมองว่าหากประชาชนที่มาชูป้ายเดือดร้อนจริงก็ควรจะมีข้อร้องเรียนมายื่นกับนายกฯได้ หรือไม่สะดวกสามารถมายื่นหนังสือผ่านตนเองได้ โดยยืนยันว่าข้อร้องเรียนต่างๆได้มีการรายงานให้นายกฯรับทราบทุกเรื่องอยู่แล้ว นายสุภรณ์ ยืนยันว่า การลงพื้นที่ของนายกฯยังเป็นการแสดงถึงความจริงใจ และตั้งใจที่จะเข้าไปพบกับประชาชนโดยตรงเพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และหามาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป ถือเป็นประโยชน์ต่อคนในจังหวัดระยอง แต่กลับมีคนส่วนน้อยที่อยากจะทำให้บรรยากาศเสีย และตั้งข้อสังเกตว่าการออกมาชูป้ายเป็นความเดือดร้อนจริงหรือเป็นพวกป่วนเมืองเพื่อหวังผลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกันแน่ นายสุภรณ์ ระบุว่า นายจิรายุ ก็ต้องรับฟังให้รอบด้านด้วย และควรตรวจสอบด้วยว่าการออกมาชูป้ายแบบนี้มีเจตนาอะไร อยากเรียกร้องความเดือดร้อนจริง หรือเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านก็น่าจะคิดได้ และขอให้แยกแยะว่าขณะนี้อยู่ในช่วงที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง "ในขณะที่นายกฯต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายในแนวทางรวมไทย สร้างชาติ แต่คนที่มาถือป้ายก็คือคนกลุ่มเดิมๆ ที่เคลื่อนไหวตลอดมาโดยไม่สนใจพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เคยยึดมั่นในกฎหมายบ้านเมือง หวังเพียงต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ทำลายความน่าเชื่อถือ คนประเภทนี้ ต้องการให้บ้านเมืองแตกแยกเกิดความวุ่นวาย อยากให้นายจิรายุฯและพรรคเพื่อไทย อย่าได้ให้ท้ายหรือส่งเสริมกลุ่มคนเหล่านี้ ประเดี๋ยวพรรคเพื่อไทยจะเสียหายไปด้วย เพราะประชาชนทราบดีว่า เขาหวังผลการเมืองมากกว่าที่จะเห็นอกเห็นใจชาวระยอง เหมือนที่ท่านนายกฯขอโทษอย่างลูกผู้ชายเดินทางไปให้กำลังใจชาวระยองอย่างจริงใจเพื่อบอกกล่าวว่า นายกฯไม่ทอดทิ้งพี่น้องชาวระยองและคนไทยทุกคน"