"นิพนธ์" แจง กมธ.กระจายอำนาจฯ สภาผู้แทนราษฎร ระบุ รายได้ท้องถิ่น กระทบแต่ไม่มาก หลัง ประกาศใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ห่วง ส่งผลการพัฒนาบริการสาธารณะ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ที่ห้อง411 อาคารรัฐสภา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เข้าร่วมประชุมชี้แจงคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายซูการ์โน มะทา เป็นประธานกมธ. เพื่อพิจารณาผลกระทบของการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 และพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท พ.ศ. 2563 โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวแม้ในระยะแรกของการบังคับใช้กฎหมายอาจส่งผลกระทบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)หลายแห่งที่มีรายได้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลดน้อยลงในปี 2563 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ กรณีเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยลดภาษีร้อยละ 90 ในปี พ.ศ. 2563 ที่ทำให้อปท.ทุกแห่งมีรายได้ จากการจัดเก็บภาษีในพื้นที่เองลดน้อยลงจำนวนมาก ทั้งนี้ ประมาณการว่า อปท. ทุกแห่งจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่เคยจัดเก็บได้เองในปี พ.ศ. 2562 จากภาษีโรงเรือนและที่ดินจำนวน 35,559 ล้านบาท และภาษีบำรุงท้องที่จำนวน 968 ล้านบาท จะทำให้ อปท.มีรายได้ลดลงจากเดิม จำนวน 34,527 ล้านบาท จึงส่งผลกระทบไม่มากต่องบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะนามาใช้จ่าย เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น “ ยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวส่งผลให้ อปท. บางพื้นที่อาจจัดเก็บรายได้ลดลง และส่งผลกระทบต่องบประมาณของอปท.ที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ทำให้การจัดทำกิจกรรมสาธารณะของส่วนท้องถิ่นเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งผู้ที่เสียประโยชน์คือ พี่น้องประชาชน เพราะจะไม่ได้รับการบริการในเรื่องใหม่ๆ ไม่มีความก้าวหน้าในเชิงการให้บริการสาธารณะของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเป็นกังวล จึงอยากให้ กมธ.ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุยหารือถึงปัญหาทั้งหมด และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันด้วย” รมช.มท. กล่าว