เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร โดยมีนายอำนาจ อินทร์วงศ์แก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ณ บึงสีไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ บึงสีไฟ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 5,390 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลท่าหลวง ตำบลคลองคะเชนทร์ ตำบลโรงช้าง และตำบลเมืองเก่า จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดและนกหลายชนิด มีความจุประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. โดยในช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทาน จะทำการเติมน้ำให้แก่บึงสีไฟ ปีละประมาณ 6-10 ล้าน ลบ.ม ตามรอบเวรการส่งน้ำและตามสภาพของน้ำที่มีอยู่ในบึง ผ่านทางโครงการท่อระบายน้ำบ้านวังทับยา และโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านวังตาดี สูบน้ำจากแม่น้ำน่านเติมลงบึงสีไฟ เฉพาะในช่วงวิกฤต เพื่อสนับสนุนการประมง รวมทั้งการเพาะปลูกบริเวณรอบบึง เป็นการแก้ปัญหาภัยแล้งส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรให้ดีขึ้น ปัจจุบัน (14ก.ค.63) บึงสีไฟมีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 1.49 ล้าน.ลบ.ม. คาดว่าประมาณวันที่15 ส.ค.63 เป็นต้นไป จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นสามารถดึงน้ำเข้าบึงได้ โดยมีเป้าหมายการเก็บกักน้ำไม่น้อยกว่า 80% ของความจุ ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการงานร่วมกัน เร่งดำเนิน สำรวจ ซ่อมแซม ปรับปรุง บึงสีไฟ ให้พร้อมใช้ รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์ของบึง ให้เป็นพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสาธารณประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมให้วางกรอบแนวทางจัดทำแผนหลักการพัฒนาฟื้นฟูและใช้ประโยชน์บึงสีไฟทั้งระบบ (Master Plan) ร่วมทั้งให้กรมชลประทานพิจารณาแนวทางการจัดสรรน้ำเข้าบึงในช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าต่อไป