เมื่อวันที่ 15 ก.ค.63 เวลา 09.30 น. พ.อ. วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณี เจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา พบแหล่งหลบซ่อนตัวผู้ก่อเหตุรุ่นแรง พร้อมตรวจยึดของกลางอาวุธปืน และอุปกรณ์ดำรงชีพได้หลายรายการ และ เหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิด ชุดปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 2209 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยครู ในพื้นที่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น ในการนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบข้อมูล/ข่าวสารอย่างถูกต้อง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้
จากกรณี เจ้าหน้าที่ติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ตรวจพบแหล่งหลบซ่อนตัวผู้ก่อเหตุรุนแรง พร้อมตรวจยึดของกลางอาวุธปืน และอุปกรณ์ดำรงชีพได้หลายรายการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 63 เวลา 03.30 น. การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจาก ในห้วงที่ผ่านมาได้ปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา มีแผนเตรียมก่อเหตุกับ เจ้าหน้าที่รัฐ ครู บุคลากรทางการศึกษา และเป้าหมายอ่อนแอในพื้นที่ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 จึงได้จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ จำนวน 9 นาย ทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บริเวณขนำร้างท้ายหมู่บ้าน ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ขณะกำลังเข้าตรวจสอบพิสูจน์ทราบขนำหลังดังกล่าว พบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 คน กระโดดออกจากขนำพร้อมทิ้งสัมภาระไว้จำนวนหนึ่ง โดยอาศัยความมืด และความชำนาญเส้นทางหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ และเก็บรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพร้อมตรวจยึดของกลางได้หลายรายการประกอบด้วย
- อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 1 กระบอก
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง
- เปล จำนวน 2 หลัง
- ยาเวชภัณฑ์
- รองเท้า 3 คู่
- เสื้อ/กางเกง
- เสบียงอาหาร และอุปกรณ์ดำรงชีพอื่นๆ
ปัจจุบันยังไม่จบภารกิจ โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ประจำจังหวัดยะลาได้เข้าทำการขยายผลในพื้นที่ พร้อมทั้งตรวจสอบวัตถุพยานเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ และติดตามคนร้ายมาลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากกรณีเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิด ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2209 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยครู ในพื้นที่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 63 เวลา 07.45 น. ขณะที่ ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2209 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ รวม 6 นาย ทำการลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครู โรงเรียนบ้านควนแปลงงู ด้วยการเดินเท้าลัดเลาะตามเส้นทางในภูมิประเทศ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณถนนเรียบคลองชลประทาน บ้านละโพะ หมู่ที่ 3 ตำบลป่าไร่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นเส้นทางบังคับ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้นแรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิตในระหว่างนำส่ง โรงพยาบาลแม่ลาน ทราบชื่อ อาสาสมัครทหารพราน มุจจรินทร์ ศรีแก้ว อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 9 ตำบลโพนงาม อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกขนาด 4 กิโลกรัม (สีส้ม) จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดคละขนาด โดยคนร้ายได้นำไปฝังไว้บริเวณข้างท่อระบายน้ำริมถนนที่เกิดเหตุ ซึ่งในห้วงดังกล่าวตรวจพบว่ามีบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนดาเวฟ 110 i อยู่บริเวณชายป่าริมคลองชลประทาน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 250 เมตร คาดว่าน่าจะเป็นคนกดระเบิด หลังจากเกิดเหตุได้ขับรถหลบหนีไปทาง ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ปัจจุบันยังไม่จบภารกิจรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ภายหลังทราบเหตุ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งกำชับให้ดูแลเรื่องสิทธิ/สวัสดิการ และการจัดการศพทหารกล้าอย่างสมเกียรติที่สุด ตลอดจนสั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สนธิกำลังตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี และเปิดแผนยุทธการบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อติดตามคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็วต่อไป พร้อมกันนี้ ได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติของ หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ที่ได้ติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ตามภาพข่าวการแจ้งเตือน จนนำไปสู่การหยุดยั้งเหตุสลดที่อาจจะเกิดขึ้นในห้วงเร็ววันนี้ได้
จากทั้ง 2 เหตุการณ์จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนร้ายยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาภัยโควิดอยู่ในขณะนี้ จึงสมควรร่วมกันประณามพฤติกรรมชั่วในครั้งนี้กันอย่างกว้างขวาง รวมไปถึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-173-2999 หรือสายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง