ตำรวจราชบุรี จับกุมแก๊งขบวนการหลอกขายสินค้าหลอกลวงชาวบ้านสวนผึ้ง อ้างมีรางวัลใหญ่ทั้งจักรยานยนต์และรางวัลมากมาย มีชาวบ้านหลงเชื่อสูญเงินหลายราย
วันนี้( 14 ก.ค. 63 ) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผู้กำกับ สภ.สวนผึ้ง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดีพยายามฉ้อโกงประชาชนและขู่เข็ญ ในพื้นที่ สภ.สวนผึ้ง ได้ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายชุติพลธ์ พลดงนอก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ นายชัยชนะ อาจศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ นายคมคาย เมืองแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 317 ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต กรุงเทพฯ นางสาวสุพรรณี เมืองแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และนางสาวศศิพิชา หินประกอบ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พร้อมอุปกรณ์ มีทั้งเตาแก๊ส น้ำยาซักผ้าชนิดซอง สลากชิงรางวัล ด้านในเขียนบัตรแลกซื้อสินค้าราคาถูก เช่นหม้อหุงข้าว ราคาพิเศษ 1,999 บาท แต่สลากบางชิ้นเมื่อใช้มือลอกสติ๊กเกอร์ออกก็จะไม่มีข้อความใด ๆ
พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก. สภ.สวนผึ้ง กล่าวว่า พฤติกรรมของขบวนการนี้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายราย ว่ามีกลุ่มคนขับรถยนต์กระบะมาจอดข้างบ้าน มีผู้หญิง 2 คนลงไปทำทีพูดคุย ส่วนผู้ชายนั่งรอในรถยนต์ เมื่อหญิง 2 คน นำสินค้าให้เลือกหลายรายการ เช่น รถไถ ตู้เย็น ทีวี เตาแก๊ส เตาปิ้งย่าง เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ มีราคาบอกไว้ที่หน้าสินค้า แต่มีกติกาว่าต้องซื้อน้ำยาซักผ้าห่อละ 1 บาท ที่ปิดฉลากติดไว้กับห่อซักผ้า เมื่อผู้เสียหายซื้อน้ำยาซักผ้าแล้วเปิดสลากดูปรากฏว่ามีรายการสินค้าที่ผู้เสียหายต้องซื้อจำนวน 3 ฉลาก ได้แก่ หัวเตาแก๊สจำนวน 1 หัว แต่ต้องซื้อในราคา 1,999 บาท เตาปิ้งย่างจำนวน 1 เตา ต้องซื้อในราคา 1,999 บาท หม้อหุงข้าวจำนวน 1 ใบ ต้องซื้อในราคา 1,999 บาท คนร้ายใช้คำพูดหว่านล้อมหลอกล่อผู้เสียหายให้หลงเชื่อจับสลากเมื่อมีรางวัลแล้วปฏิเสธไม่ยอมซื้อสินค้า จะมีกลุ่มคนขายลงมาจากรถแล้วพูดจาโวยวาย ขู่เข็ญเพื่อให้ยอมซื้อสินค้า
ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ใช้รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผษ 1498 ขอนแก่น ได้ขับหลบหนีจากเส้นทางหมู่บ้านวังโค หมู่ 6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มุ่งหน้าไปตามเส้นทางถนนผาปก บ้านตะโกล่าง ตำรวจจึงออกติดตาม พบรถยนต์และผู้ต้องทั้ง 5 คน พร้อมอุปกรณ์ตามบัญชีของกลาง มีทั้งเตาแก๊ส หม้อหุงข้าวและอื่น ๆ อีกหลายรายการยึกไว้เป็นหลักฐาน
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และกล่าวว่า ชาวบ้านมีความโลภเองเลยต้องทำแบบนี้ ขณะที่แก๊งค์นี้ได้เคยก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่ทางภาคอีสาน แต่ทางชาวบ้านแถบนั้นรู้ตัว เลยย้ายมาก่อเหตุในพื้นที่ภาคกลางแถวราชบุรีจนมาจนมุมถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้แถวชายแดน
พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กล่าวว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่สืบสวนจับกุมคดีที่มีลักษณะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนเป็นงานเร่งด่วน ให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มตัดช่องโอกาสกลุ่มมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะเรื่องอาชญากรรมที่กระทบต่อชีวิตประจำวันและสภาพปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่รับผิดชอบ หากประชาชนที่ดูข่าวสาร เคยเจอเหตุการณ์นี้ ให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ได้กับสถานีตำรวจในท้องที่ของตนเองได้ และให้ประสานงานมาที่ สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ให้เกิดความเข็ดหลาบที่หลอกลวงประชาชน
วันนี้( 14 ก.ค. 63 ) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผู้กำกับ สภ.สวนผึ้ง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดีพยายามฉ้อโกงประชาชนและขู่เข็ญ ในพื้นที่ สภ.สวนผึ้ง ได้ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายชุติพลธ์ พลดงนอก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ นายชัยชนะ อาจศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ นายคมคาย เมืองแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 317 ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต กรุงเทพฯ นางสาวสุพรรณี เมืองแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และนางสาวศศิพิชา หินประกอบ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 9 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พร้อมอุปกรณ์ มีทั้งเตาแก๊ส น้ำยาซักผ้าชนิดซอง สลากชิงรางวัล ด้านในเขียนบัตรแลกซื้อสินค้าราคาถูก เช่นหม้อหุงข้าว ราคาพิเศษ 1,999 บาท แต่สลากบางชิ้นเมื่อใช้มือลอกสติ๊กเกอร์ออกก็จะไม่มีข้อความใด ๆ
พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก. สภ.สวนผึ้ง กล่าวว่า พฤติกรรมของขบวนการนี้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายราย ว่ามีกลุ่มคนขับรถยนต์กระบะมาจอดข้างบ้าน มีผู้หญิง 2 คนลงไปทำทีพูดคุย ส่วนผู้ชายนั่งรอในรถยนต์ เมื่อหญิง 2 คน นำสินค้าให้เลือกหลายรายการ เช่น รถไถ ตู้เย็น ทีวี เตาแก๊ส เตาปิ้งย่าง เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ มีราคาบอกไว้ที่หน้าสินค้า แต่มีกติกาว่าต้องซื้อน้ำยาซักผ้าห่อละ 1 บาท ที่ปิดฉลากติดไว้กับห่อซักผ้า เมื่อผู้เสียหายซื้อน้ำยาซักผ้าแล้วเปิดสลากดูปรากฏว่ามีรายการสินค้าที่ผู้เสียหายต้องซื้อจำนวน 3 ฉลาก ได้แก่ หัวเตาแก๊สจำนวน 1 หัว แต่ต้องซื้อในราคา 1,999 บาท เตาปิ้งย่างจำนวน 1 เตา ต้องซื้อในราคา 1,999 บาท หม้อหุงข้าวจำนวน 1 ใบ ต้องซื้อในราคา 1,999 บาท คนร้ายใช้คำพูดหว่านล้อมหลอกล่อผู้เสียหายให้หลงเชื่อจับสลากเมื่อมีรางวัลแล้วปฏิเสธไม่ยอมซื้อสินค้า จะมีกลุ่มคนขายลงมาจากรถแล้วพูดจาโวยวาย ขู่เข็ญเพื่อให้ยอมซื้อสินค้า
ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ใช้รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผษ 1498 ขอนแก่น ได้ขับหลบหนีจากเส้นทางหมู่บ้านวังโค หมู่ 6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มุ่งหน้าไปตามเส้นทางถนนผาปก บ้านตะโกล่าง ตำรวจจึงออกติดตาม พบรถยนต์และผู้ต้องทั้ง 5 คน พร้อมอุปกรณ์ตามบัญชีของกลาง มีทั้งเตาแก๊ส หม้อหุงข้าวและอื่น ๆ อีกหลายรายการยึกไว้เป็นหลักฐาน
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และกล่าวว่า ชาวบ้านมีความโลภเองเลยต้องทำแบบนี้ ขณะที่แก๊งค์นี้ได้เคยก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่ทางภาคอีสาน แต่ทางชาวบ้านแถบนั้นรู้ตัว เลยย้ายมาก่อเหตุในพื้นที่ภาคกลางแถวราชบุรีจนมาจนมุมถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้แถวชายแดน
พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กล่าวว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่สืบสวนจับกุมคดีที่มีลักษณะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนเป็นงานเร่งด่วน ให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มตัดช่องโอกาสกลุ่มมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะเรื่องอาชญากรรมที่กระทบต่อชีวิตประจำวันและสภาพปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่รับผิดชอบ หากประชาชนที่ดูข่าวสาร เคยเจอเหตุการณ์นี้ ให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ได้กับสถานีตำรวจในท้องที่ของตนเองได้ และให้ประสานงานมาที่ สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ให้เกิดความเข็ดหลาบที่หลอกลวงประชาชน