เมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลา 08.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทหารอียิปต์ และเด็กที่มาพร้อมคณะทูตซูดานติดโควิด-19 จะมีการปรับมาตรการอย่างไรว่า ศบค.ได้แจ้งคณะกรรมการ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือในเรื่องของการลงไปสอบสวนโรคที่บุคคลทั้งสองเข้าไปสัมผัส ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้มีมาตรการป้องกันแล้วหลังมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ที่หากพบเหตุสงสัยให้ทำการสอบสวนตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. คงจะได้พูดคุยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่จะไปพูดคุยในประชุม ศบค.ชุดใหญ่ภายในสัปดาห์นี้เพื่อวางมาตรการรองรับ อย่่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ก็ได้มีการวางมาตรการและขั้นตอนปฏิบัติเอาไว้หากพบผู้ติดเชื้อในประเทศ ซึ่งเวลานี้เรายังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ พบแต่ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และมีประวัติเดินทางไปในสถานที่เสี่ยง ขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า กรณีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนโรค ซึ่งเป็นขั้นตอนสาธารณสุขตามปกติ ไม่ได้มีเหตุการณ์พิเศษที่ต้องเฝ้าระวังฉุกเฉิน และยังขอให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข คือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เราต้องมีมาตรการรอบคอบในการควบคุม และต้องไม่ตื่นตระหนกเพื่อไม่ให้มีผลกระทบในวงกว้าง ขอให้ประชาชนยังช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข เพราะ ศบค.มีขั้นตอนปฏิบัติอยู่ ทั้งนี้ แม้จะมีบุคคล 6 กลุ่มที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ ขอย้ำว่ามาตรการส่วนบุคคลยังคงต้องเข้มงวดอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค.ควรจะทบทวนท่าทีให้เข้มงวดในการตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการปฏิบัติตามอย่างไร นายอิทธิพล กล่าวว่า นายกฯจะหารือในที่ประชุมครม. เพื่อกำชับข้อปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่จะลงไปทุกภาคส่วนให้เข้มงวดขึ้น และเพื่อให้ทุกกระทรวงช่วยกันกระจายข่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ได้จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดหรือส่งผลกระทบรุนแรง จึงขอให้ฝ่ายสาธารณสุขได้สอบสวนโรค และยังต้องยกการ์ดสูงอยู่ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติและใช้ชีวิตปกติ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าการ์ดตกเสียเอง นายอิทธิพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้าใจภารกิจทุกภาคส่วนของการทำงาน แต่เมื่อเกิดเหตุจากบุคคลที่เราอนุญาตให้เข้ามาก็ต้องทำการ สอบสวนในข้อเท็จจริง หากจุดไหนที่มีข้อบกพร่อง หรือจะต้องเข้มงวดเป็นพิเศษก็ต้องเข้มงวด ถือเป็นแผนปฏิบัติการตามปกติ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ และย้ำว่าอย่าไปทำอะไรให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เพราะขณะนี้เป็นเพียงการสันนิษฐานในวงแคบ ขอให้ใช้ชีวิตตามปกติ