"ศบค." เผยไทยติดเชื้อโควิด-19รายใหม่อีก 3 เป็นคนไทย2ราย กลับจากคูเวต-บาห์เรน "ทหารอียิปต์" อีก 1 "หมอทวีศิลป์" รับห่วงชาวอียิปต์ป่วย เดินทางสัมผัสสถานที่ในระยอง เร่งจับสอบสวนโรคทั้งหมด ด้าน "หมอยง"เตือนไวรัสมรณะในไทยเป็นสายพันธุ์ G ระบาดมากในตะวันตก เผยแพร่กระจายได้ง่าย-เร็วมาก แนะป้องกันอย่างเต็มที่ ไม่ให้ระบาดระลอกสอง เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เป็นคนไทยเดินทางกลับจากคูเวต และบาห์เรน ขณะที่อีก 1 ราย เป็นทหารชาวอียิปต์ รวมยอดผู้ป่วยสะสม 3, 220 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม คงที่ 58 ราย รักษาหายอีก 2 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหาย 3,090 ราย และยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 72 ราย ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 49 แล้ว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ทหารชาวอียิปต์รายนี้ อายุ 43 ปี เดินทางเข้ามาในประเทศไทยลักษณะของลูกเรือเครื่องบินทหาร ซึ่งเข้าเกณฑ์ในการอนุญาตให้เข้าประเทศได้ โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 63 เดินทางออกจากสนามบิน กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 63 เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรส์ ไปปากีสถาน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 63 ออกจากโรงแรม จ.ระยอง ไปท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา เพื่อบินไปทำภารกิจทางการทหารที่เมือง เฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเดินทางไปกลับวันเดียวกัน และกลับมาเข้าพักที่โรงแรมเดิมใน จ.ระยอง เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 63 ทีมหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ อ.เมืองระยอง เข้าคัดกรองอาการของคณะเดินทางและลูกเรือ เก็บตัวอย่างส่งตรวจ 31 ราย ทั้งนี้ชายสัญชาติอียิปต์ได้ไปสัมผัสโรงแรมและสถานที่บางสถานที่ในจ.ระยอง ฉะนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการการสืบสวนโรคผู้ที่อาจสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวใน จ.ระยองทั้งหมด เมื่อถามว่าคนต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนจะมีการดูแลอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ถ้าเข้ามาถ้าตรวจพบก็จะผลักดันออกไป ซึ่งตัวเลข 3,000 คนเป็นตัวเลขสะสมเดิมอยู่แล้ว แต่อยู่ในพื้นที่ไม่มา แต่ถ้าเข้ามาอยู่ในเมืองต้องกักขังอยู่ที่ส่วนกลาง มีพื้นที่รองรับตั้งแต่ 100 - 1,000 คน ดังนั้นขอความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนช่วยกันเป็นหูเป็นตาถ้าพบคนไม่คุ้นหน้า ฝากให้ทางการเพื่อช่วยกันดูแลด้วย เมื่อถามว่าเด็กอายุ 9 ขวบ และลูกเรือ ลงเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา แล้วเดินทางไประยอง เหตุใดจึงไม่กักตัว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เป็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้น เด็กหญิงที่มากับครอบครัวคณะทูต ซึ่งได้ให้สถานทูตเป็นต้นสังกัดในการกักกัน และเราเชื่อใจ เราให้เกียรติแต่เมื่อพบว่า สถานที่พำนักกลายเป็นคอนโด จึงต้องมีการกำชับและขอให้ร่วมกันรับผิดชอบ และมีมาตรการมากขึ้น และได้ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ และเข้าใจตรงกันว่าจะต้องอยู่ใน 14 วันของท่านจริงๆไม่ใช่ต้องออกมา ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า"โควิด-19 แพร่กระจายโรคได้ง่ายขึ้นปีการศึกษาและเผยแพร่ในวารสาร cell มีข้อมูลที่น่าสนใจ แต่เดิมสายพันธุ์ของ โควิด-19 เริ่มต้นจากประเทศจีนเป็นสายพันธุ์ S และสายพันธุ์ L สายพันธุ์ L แพร่กระจายได้ง่ายในนอกประเทศจีน แต่สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทยใน wav e แรก เป็นสายพันธุ์ S มีลักษณะจำเพาะ ในตำแหน่ง 829 บน spike โปรตีน หรือ หนามแหลม ที่ยื่นออกมา มีการเปลี่ยนแปลงเป็น Threonine (T829) เลยอยากเรียกว่าเป็นสายพันธุ์ Tสายพันธุ์ T เป็นลูกสายพันธุ์ S ตอนนี้น่าจะหมดไปแล้ว เพราะเกิดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น สายพันธุ์ L เมื่อไประบาดนอกประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปได้ออกลูกหลาน เป็นสายพันธุ์ G และ V โดยสายพันธุ์ G มีการเปลี่ยนแปลง ในตำแหน่ง 614 บนหนามแหลม ที่ยื่นออกมา (spike) โดยเปลี่ยนแปลงจาก Aspartate (D) ไปเป็น Glycine (G) หรือเรียกว่าสายพันธุ์ G614 ศ.นพ.ยง กล่าวต่อว่า สายพันธุ์ G นี้ แพร่กระจายได้ง่ายมาก ออกลูกหลานมาเป็น สายพันธุ์ GH และ GR จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าสายพันธุ์ G นี้ แพร่ระบาดได้ง่าย (ในวารสาร cell) เพราะพบว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ G จะมีปริมาณเชื้อที่ลำคอค่อนข้างมาก จึงแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ง่าย ทำให้ระบาดได้ง่าย กว่าสายพันธุ์อื่น แต่สายพันธุ์ G นี้ไม่ได้ทำให้โรครุนแรงขึ้น ยังคงเหมือนเดิม เพียงทำให้มีการแพร่กระจายไปทั่วโลกได้มากขึ้น ดังนั้นขณะนี้สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก จึงเป็นสายพันธุ์ G มากที่สุด สายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและมาตรวจพบ ใน state quarantine ของประเทศไทย จึงมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นสายพันธุ์ G แล้ว และเชื่อว่าถ้ามีการระบาดในระลอก 2 สายพันธุ์ที่จะระบาดจะต้องเป็นสายพันธุ์ G ที่ย้อนกลับมาจากประเทศทางตะวันตก และในเอเชียอยู่ขณะนี้ ไม่น่าจะเป็นสายพันธุ์ S ที่เคยระบาดอยู่ในประเทศไทย ถ้าสายพันธุ์ G แพร่ได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ S ตามที่ได้มีการศึกษาไว้ การระบาดระลอกสอง ก็จะต้องป้องกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามสายพันธุ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของโรค เป็นการติดตามการระบาดวิทยาและเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโรคได้ง่ายหรือยาก เพราะ สายพันธุ์ G เจริญเติบโตได้ดีในทางเดินหายใจจึงมีปริมาณไวรัสมากกว่า