สถานการณ์ที่กำลังดีวันดีคืนสำหรับประเทศไทย แต่สำหรับข่าวที่ออกมาในวันนี้ ที่เจอผู้ติดเชื้อเข้ามาในไทย และยังสามารถออกจากสถานที่เฝ้าระวังของรัฐไปเดินตามที่สาธารณะได้ เรียกว่าแทบจะทำให้ 49 วันที่ผ่านมา แทบจะไร้ความหมายในความรู้สึกของคนไทย
ล่าสุดศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ “การเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทย
1. Fit to Fly คือ ผู้เดินทางจะต้องสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ปรากฎอาการผิดปกติใด ๆ
2. การตรวจยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อ ก่อนเข้าประเทศไทย โดยจะต้องมีการตรวจติดตามเป็นระยะๆ ด้วยวิธีการแยงจมูกหาเชื้อโดยตรง (PCR) เพื่อใช้เป็นเสมือน “พาสปอร์ตด้านสุขภาพ”
3- เมื่อเข้าประเทศไทย ตรวจซ้ำ ขาเข้า ด้วยวิธีหาเชื้อ ด้วย PCR และ การตรวจเลือด
และตรวจซ้ำ ในวันที่ 4-7 วัน
▪️ ตรวจครั้งที่ 1 ในช่วง 5 วัน ก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศ
▪️ ตรวจครั้งที่ 2 ในช่วง 1 วัน ก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศ
เมื่อเดินทางเข้ามาภายในประเทศแล้ว ตรวจซ้ำ เป็นครั้งที่ 3
และจำเป็นจะต้องได้รับการกักกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ
▪️ ตรวจครั้งที่ 4 ในช่วง 4-5 วัน ถึง 7 วันหลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศแล้ว
สำหรับวิธีการเจาะเลือดตรวจภูมิคุ้มกันและ หาเชื้อ PCR ต้องเป็นวิธีมาตรฐาน
ถ้า “ผลบวก” จากอย่างใด อย่างหนึ่งหรือทั้ง 2 อย่าง ผู้เดินทางต้องได้รับการกักตัวต่อ 14 วัน และเฝ้าดูอาการและตรวจซ้ำเป็นระยะ ตามปกติ
ถ้า ผลเป็นลบ เข้าประเทศ แบบ new normal
4 ข้อ ที่ลืมไม่ได้ในการใช้ชีวิตแบบ New Normal
▪️ ระบบติดตามตัว
▪️ การสวมหน้ากากอนามัย
▪️ การหมั่นล้างมือให้สะอาด
▪️ การรักษาระยะห่าง (Social distancing)
ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในทุกกิจกรรมทั้งระหว่างการเดินทางและการใช้ชีวิตภายในประเทศ”