สภาพัฒน์จัดสรรงบ40 ล.ให้ก.วัฒนธรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมมิติวัฒนธรรมที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้แจ้งผลการประเมินผลโครงการของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ที่เสนอตามกรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในด้านต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีโครงการที่ผ่านการประเมิน จำนวน 40 โครงการ จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 27 จังหวัด ทั้งนี้ในส่วนงบ Function จำนวน 9 โครงการ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 40,220,000 บาท ประกอบด้วย 1. โครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ต.บางกะจะ จ.จันทบุรี จำนวน 4,500,000 บาท 2. โครงการตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม จ.ปทุมธานี จำนวน 5,950,000 บาท 3. โครงการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม จ. พิษณุโลก จำนวน 7,000,000 บาท 4. โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยมิติวัฒนธรรม จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 2,000,000 บาท 5. โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวิถีชุมชนทวาราวดีศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 1,800,000 บาท 6. โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน (บวร ออนทัวร์) จ.มหาสารคาม จำนวน 6,500,000 บาท 7.โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนด้วยมิติทางวัฒนธรรม จ.ระนอง จำนวน 1,200,000 บาท 8. โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนด้วยมิติทางวัฒนธรรม จ.ราชบุรี จำนวน 2,000,000 บาท 9. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม จ. อ่างทอง จำนวน 1,820,000 บาท 10. โครงการพัฒนาและยกระดับบริการการท่องเที่ยวชุมชนพลังบวร จ. อุตรดิตถ์ จำนวน 6,550,000 บาท และ11. โครงการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อัตลักษณ์ชุมชน (COPT) และส่งเสริมการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ จ. อุตรดิตถ์ จำนวน 900,000 บาท “ได้กำชับผู้ตรวจราชการวธ. ให้ช่วยกำกับ ติดตาม โครงการที่ผ่านการพิจารณาในแต่ละจังหวัด ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดให้มีความต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามตัวชี้วัดและเป้าหมายของการดำเนินงาน รวมทั้งย้ำว่าทุกโครงการต้องพุ่งเป้าไปที่หัวใจหลัก คือ การนำทุนทางวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่มาสร้างให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในภาพรวม มีการต่อยอดสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการหมุนเวียนเม็ดเงิน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ที่สำคัญจะต้องดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคน หรือบุคคลใดๆ โดยให้ผู้ตรวจ วธ. ให้การสนับสนุนการทำงานด้านวัฒนธรรมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดอย่างเต็มความสามารถ มีวัฒนธรรมจังหวัดเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนโครงการในแต่ละพื้นที่” นายกฤษศญพงษ์ ปลัดวธ. กล่าว แฟ้มภาพ เพจเฟซบุ๊ก เสน่ห์ชุมชนบวร