เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 14 ราย อยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,216ราย เป็นผ้ติดเชื้อในประเทศ2,444 ราย อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ 279 ราย หายป่วยสะสม 3,088 ราย รักษาอยู่ 70 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย และประเทศไทยไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทติดต่อกัน 47 วัน สำหรับผู้ป่วยใหม่ รายที่ 1 เดินทางมาจากบาห์เรน เป็นหญิงไทย อายุ 42 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จังหวัดชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 9 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ รายที่ 2 มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทย อายุ 31 ปี อาชีพลูกเรือสำราญ เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ที่กรุงเทพมหานคร และตรวจหาเชื้อในวันที่ 9 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ รายที่3-14มาจากซูดาน เป็นนักศึกษาชายไทย จำนวน 11 ราย อายุ 19 – 31 ปี และเด็กหญิงไทย 1 ราย อายุ 9 ปี (เดินทางมาพร้อมครอบครัว) ทั้งหมดเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม โดยผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่าทั้งหมดมีอาการเข้าเกณฑ์ PUI คือ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จึงส่งตรวจหาเชื้อในวันที่ 10 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ สำหรับสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 12,625,155 ราย อาการรุนแรง 58,898 ราย รักษาหายแล้ว 7,360,954 ราย เสียชีวิต 562,769 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 3,291,786 ราย 2. บราซิล จำนวน 1,804,338 ราย 3. อินเดีย จำนวน 822,603 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 713,936 ราย 5. เปรู จำนวน 319,646 ราย ส่วนประเทศไทย วันนี้อยู่ในอันดับที่ 100 จำนวน 3,216 ราย ทั้งนี้สำหรับเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศวันที่ 11 ก.ค. มี 3 เที่ยวบิน จากเนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา รวม 421 ราย