เมื่อวันที่ 11 ก.ค.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,216 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมยอดเสียชีวิตสะสมยังคงที่ที่ 58 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหาย 3,088 ราย และยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 70 ราย ขณะที่ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 47 แล้ว สำหรับรายละเอียดผู้ป่วยทั้ง 14 ราย แบ่งเป็น 1.เดินทางกลับจากบาห์เรน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 42 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.เข้าพักใน state quarantine ที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 9 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ 2.เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 31 ปี อาชีพลูกเรือสำราญ เดินทางมาถึงไทยวันที่ 5 ก.ค.เข้าพักใน state quarantine ที่ กทม.และตรวจหาเชื้อในวันที่ 9 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ และ 3.เดินทางกลับจากซูดาน 12 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย จำนวน 11 ราย อายุ 29-31 ปี และเด็กหญิงไทย 1 ราย อายุ 9 ปี(เดินทางมาพร้อมครอบครัว) ทั้งหมดเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ก.ค.โดยผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรคพบว่า 11 ราย มีอาการเข้าเกณฑ์ PUI คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จึงส่งตรวจหาเชื้อในวันที่ 10 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งนี้ สัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,782 ราย / ภาคเหนือ 95 ราย / ภาคกลาง 484 ราย / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย / ภาคใต้ 744 ราย นอกจากนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้รายงาน จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมใน สถานกักกันโรคของรัฐที่ส่วนกลางและจังหวัด Stage and Local Quarantine Sites ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์- 11 กรกฎาคม 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 279 ราย