ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(10 ก.ค.) 1,350.50 จุด ลดลง 15.31 จุด (-1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 64,196.73 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,363.28 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,346.72 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 429 หลักทรัพย์ ลดลง 1,005 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 290 หลักทรัพย์ นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า มองว่านักลงทุนคงจะ Wait & See และบางส่วนขายล็อกกำไรก่อนเพื่อรอลุ้นหลายปัจจัยในสัปดาห์หน้า ส่วนบ้านเรานักลงทุนก็ยังไม่มั่นใจที่จะเข้าลงทุน หลังยังต้องจับตาปัจจัยการเมืองในประเทศ เรื่องการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้แต่สัญญาณทางเทคนิคพยายามจะไม่หลุดแนว 1,350 จุด มิฉะนั้นจะมีแรงขายออกมามากขึ้น ทั้งนี้นักลงทุนต่างรอดูปัจจัยที่จะเข้ามาในสัปดาห์หน้า ทั้งการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 ของกลุ่มแบงก์,หุ้นหลายตัวก็จะติดเกณฑ์ Cash Balance ด้วย,ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ของจีน ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาดี,ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ รวมไปถึงการประชุมของหลายธนาคารกลางเช่น ธนาคารกลางยุโรป (ECB), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางอินโดนีเซีย เป็นต้น โดยแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ตลาดฯมีโอกาสที่จะผันผวนได้ แต่ก็ยังมองในทิศทางขาขึ้นมากกว่าลง เนื่องจากคาดว่าจีนจะประกาศตัวเลข GDP ออกมาดี ซึ่งสามารถซื้อเล่นเทรดดิ้งได้ แต่ตลาดยังมีความเสี่ยงอยู่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯที่น่าจะยังสูงขึ้น ดังนั้นต้องคอยติดตามดูต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,330-1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380-1,390 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ STGT มูลค่าการซื้อขาย 8,074.08 ล้านบาท ปิดที่ 74.50 บาท ลดลง 0.25 บาท,AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,638.67 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 1.25 บาท,CPALLมูลค่าการซื้อขาย 2,076.45 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 1.50 บาท,PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,965.58 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 1.00 บาท,KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,792.48 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.95 บาท