ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ พ.ศ. 2563 หรือในทางสากลคือ 2020 เป็นปีที่บุคคลมีชื่อเสียงในแวดวงศิลปะ-บันเทิงทิ้งร่างอำลาโลกกันเป็นว่าเล่น หลังสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา ชาร์ลี แดเนียลส์ ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ผู้ฟังเพลงในวงกว้างจะรู้จักเขามากที่สุดก็เพราะเพลงฮิตอันดับ 1 - "The Devil Went Down to Georgia" หลังจากถูกนำมาประกอบหนังเรื่อง Urban Cowboy เมื่อปี 1980 แม้แต่ผู้ฟังคันทรี-ป๊อปเองก็อาจจะไม่รู้จัก แดเนียลส์ มากนัก แต่ผลงานที่เขาสร้างไว้มีความสำคัญในเชิงลึกต่อวงการคันทรี่และร็อคยุคต่อๆมา แดเนียลส์ เกิดในวิลมิงตัน รัฐนอร์ท แคโรไลนาเมื่อ 83 ปีที่แล้ว วัยเด็กฟังเพลงอย่างกว้างขวางจากสถานีวิทยุ WLAC และ WSM ที่ออกอากาศในแนชวิลล์ พอเข้าสู่วัยรุ่นก็ย้ายไปอยู่ที่เมืองกัลฟ์ในรัฐเดียวกัน ตอนที่จบมัธยมปลาย แดเนียลส์ มีทักษะในการเล่นเครื่องดนตรีหลากหลายแล้ว และตั้งวงร็อก แอนด์ โรลล์ยึดอาชีพดนตรีตั้งแต่ปี 1955 ในปี 1964 เขาร่วมแต่งเพลง "It Hurts Me" กับเพื่อนโปรดิวเซอร์ บ็อบ จอห์นสตัน ให้ เอลวิส เพรสลีย์ บันทึกเสียง และจากนั้นก็มีอาชีพเป็นมือปืนรับจ้างในห้องอัด เล่นให้ศิลปินดังหลายราย มีเสียงกีตาร์และเบสของเขาอยู่ใน 3 อัลบั้มของ บ็อบ ดีแลน ระหว่างปี 1969-1970, อัดเสียงให้ ลีโอนาร์ด โคเฮน และโปรดิวซ์อัลบั้ม Elephant Mountain ให้วง เดอะ ยังบลัดส์ ด้วย แดเนียลส์ ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก Charlie Daniels ในปี 1971 แต่กว่าจะมีเพลงฮิตเพลงแรกก็มาถึงปี 1973 กับ "Uneasy Rider" (จากอัลบั้มที่ 3 - Honey in the Rock) ซึ่งข้ามจากแวดวงคันทรี ขึ้นไปติดบนตารางอันดับเพลง ฮ็อท 100 ของ บิลล์บอร์ด ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 นอกจากทำงานของตัวเอง แดเนียลส์ ยังไปช่วยเล่นฟิดเดิ้ลในหลายเพลงของ มาร์แชล ทัคเกอร์ แบนด์ รวมถึงเล่นให้กับเพื่อนศิลปินอื่นๆ ช่วงเดียวกันนั้น เขาก็เริ่มใช้ชื่อในการทำงานเป็นชื่อวง ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ แบนด์ แทนชื่อตัวเอง ความที่เป็นนักดนตรีในห้องบันทึกเสียงและมีพื้นฐานการฟังเพลงในวัยเยาว์อย่างกว้างขวาง ดนตรีของ แดเนียลส์ จึงมีส่วนผสมของดนตรีหลายสไตล์ แต่ที่สำคัญคือเขาทำให้มันกลมกลืนและกลายเป็นลายเซ็นของตนเอง การหลอมรวมบลูแกรสส์, คันทรี, เซาเธิร์น-ร็อก, บลูส์, ร็อก แอนด์ โรลล์ และกอสเพลที่ แดเนียลส์ สร้างสรรค์ไว้ในผลงาน กลายเป็นแม่แบบให้ศิลปินรุ่นหลังจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ในฝั่งคันทรีและเซาเธิร์น-ร็อค นับจากกลางทศวรรษ 1970 แดเนี่ยลส์ มีเพลงฮิทมากมาย เช่น "The South's Gonna Do It Again", "Long Haired Country Boy", "In America", "The Legend of Wooley Swamp", "Still in Saigon", “Simple Man” และแน่นอน "The Devil Went Down to Georgia" ที่ติดอันดับ 3 บนตารางเพลงป๊อป และทำให้เขาได้รางวัล แกรมมี่ สาขา Best Country Vocal Performance หลังจากกลางทศวรรษ 1980 เขาก็มีผลงานด้านการแสดงภาพยนตร์อยู่หลายเรื่อง เช่นเดียวกับการแต่งเพลงและทำดนตรีประกอบหนัง แดเนียลส์ ถูกบันทึกชื่อเข้าหอเกียรติยศดนตรีแห่งนอร์ท แคโรไลนา ปี 1999, ได้รับเกียรติเป็น บีเอ็มไอ ไอคอน แต่เพิ่งจะได้รับการบันทึกชื่อเข้าหอเกียรติยศแห่งดนตรีคันทรี เมื่อปี 2016 ซึ่งมีข้อสังเกตจากหลายคนว่า ช้าเกินไปสำหรับคนที่มีผลงานระดับเขา แต่อาจจะมีบางคนที่มองว่า ดนตรีของ แดเนียลส์ ยากจะให้คำจำกัดความชัดๆเสียทีเดียว และบางทีมีเหตุผลด้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับดนตรีของเขา ความคิดทางสังคมและการเมืองของ แดเนียลส์ มีความอิสระ เฉพาะตัว แตกต่างจากชาวใต้ส่วนใหญ่ที่ยังคงมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม สิ่งเหล่านี้ปรากฏอยู่ในเพลงอย่าง "Uneasy Rider", "In America" และ “Still in Saigon” และ “Simple Man” ซึ่งเรื่องราวทางสังคมและการเมืองถูกสะท้อนอยู่ในบทเพลงของ แดเนียลส์ ตลอดมา รวมถึงการให้สัมภาษณ์และการเขียนหนังสือของเขา แม้จะเข้าสู่วัย 80 แล้ว ชาร์ลี แดเนียลส์ เพิ่งหยุดทัวร์ก่อนหน้าการระบาดของ โควิด-19 ได้ไม่นาน ในเว็บไซต์ของวงก็เคยวางตารางทัวร์ล่วงหน้าหากสถานการณ์ โควิด-19 เบาบางลง แต่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เขาก็เส้นโลหิตในสมองแตกเสียก่อน และเสียชีวิตที่ ศูนย์แพทย์ซัมมิท ในแนชวิลล์ เหลือแต่ผลงานของเขาเท่านั้นที่ยังไม่ตาย