"บิ๊กตู่" ลั่นปรับครม. เป็นไปได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เคารพการตัดสินใจ "4 กุมาร" ยันทั้งหมดเป็นโควต้านายกฯ ยันจะเลือกคนดีที่สุดทุกกระทรวง ขู่คนวิ่งเต้น อาจไม่ได้ตำแหน่งโว " 3 ป."ไม่แตกคอ วันนี้ (9ก.ค.63) เมื่อเวลา 15.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณี "กลุ่ม 4 กุมาร" ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เรื่องที่ถามมาเป็นประเด็นร้อนในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของทั้ง 4 คนตนก็เคารพการตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องภายในพรรค "ส่วนผมเองก็ต้องเตรียมการพิจารณาว่า จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป วันนี้ขอให้ท่านเชื่อมั่นระบบบริหารราชการแผ่นดินของเรา เชื่อมันในตัวผม และผมก็จะนำพาประเทศชาติในช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ในส่วนการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นวิถีทาง ทางการเมือง การเข้ามาเป็นส.ส. การเข้ามาเป็นรัฐมนตรี การจะเข้ามาเป็นครม. การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการไปพูดคุยเจรจากันอีกครั้ง คำตอบอันนี้ ผมยังไม่มีให้ว่าใครจะเป็น ใครจะเข้า ใครจะออก เพราะเราต้องคุยกับพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามกลไกทางการเมือง ขอให้ใจเย็นๆ" นายกฯ กล่าว เมื่อถามว่า ที่มีข่าวว่ากำหนดไว้ว่าเดือนกันยายนจะปรับครม.ถึงวันนี้จะเร็วขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า "ดูจากการปรับครม.ใครปรับหรือยัง ผมพูดเมื่อไหร่ว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน ผมไม่เคยพูดจะปรับในเดือนกันยายนเลย พวกคุณไปตีความกันเอง" เมื่อถามย้ำว่า ช่วงเวลาที่นายกฯ วางจะเป็นช่วงเดือนไหน "ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ผมไม่ได้พูดว่าเป็นเดือนกันยายน" เมื่อถามว่า นายกฯ ไม่กำหนดชัดเจนว่าจะปรับครม.เมื่อไหร่ ก็จะมีการวิ่งเต้นเพื่อขอตำแหน่งกันอีกพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า " วิ่งกับใคร ผมก็ยืนยันว่า ใครจะวิ่ง ใครจะอะไร คนวิ่งมากๆ ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้ แต่ขอร้องว่าอย่าทำให้เกิดความสับสนอลหม่านได้หรือไม่ ใครจะวิ่งก็วิ่งไปเถอะ ผมจะตัดสินใจด้วยตัวของผมเอง และผมก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค" ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อกลุ่ม 4 กุมารไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร.แล้วจะส่งผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องกลไกภายในพรรค เพราะสัดส่วนในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองเป็นอันดับแรก โควต้าคนนอกก็เป็นอีกส่วนหนึ่งอย่าลืมว่าตนก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. เพราะฉะนั้นสัดส่วนรัฐมนตรีก็ต้องฟังจากพรรคเป็นหลัก การจะนำคนนอกเข้ามาก็เป็นโควต้าของเขา ซึ่งตนก็ขอเขามาและเขาก็ให้ตนเข้ามาตรงนี้ รวมทั้งมีรัฐมนตรีหลายคนที่มากับตนด้ว เมื่อถามว่า การที่ 4 คนลาออกจากพปชร. ถือว่าเป็นโควต้าของนายกฯ ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดิมก็เป็นเช่นนั้นอยู่ และเป็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ต้องไปดูว่าโควต้าเหมาะสมแล้วหรือยัง ใครจะได้เพิ่ม ใครจะได้ลดอย่างไรก็ไปว่ากันอีกที เมื่อถามว่า พูดได้หรือไม่ว่าการปรับครม.ครั้งหน้าจะเป็นการปรับใหญ่หรือจะปรับเฉพาะที่จำเป็น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เท่าที่จำเป็น ใครที่เขาทำงานดีอยู่แล้วก็ให้เขาทำงานต่อ ที่ผ่านมาทุกคนทำงานดีทั้งหมด ตนไม่ได้ว่าใครไม่ดี เพียงแต่กลไกทางการเมืองและวิถีทางการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามยำว่า โควต้าสัดส่วนครม.ของนายกฯ คือเฉพาะตำแหน่งเดิมที่มีอยู่ใช่หรือไม่ นายก​ฯ กล่าวว่า "ผมถึงถามว่า เมื่อเอาเขาเข้ามาแล้ว จำเป็นจะต้องคืนเขาหรือเปล่า ต้องคืนเขาบ้างไหม จะมีคนนอกเข้ามาได้ตรงไหน ก็ต้องไปคุยกันอีก เพราะก็ผ่านมา 1 ปีแล้วก็ต้องคุยกันใหม่ เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันมาโดยตลอดนายสมคิดก็บอกว่า ท่านเองก็พร้อมทุกเรื่อง เมื่อถามว่าแต่ที่ผ่านมามีกระแสข่าวโจมตีและขย่มนายสมคิดบ่อยครั้ง พอจะยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่มีปัญหาระหว่างกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า " ผมเองก็ต้องดู ก็มีการขย่มกันทั้ง 2 ฝ่าย สื่อก็รู้ว่าใครขย่มใคร แล้วใครขย่มกันอย่างไรวิธีไหน บางทีก็พูดกันไปเรื่อย สื่อก็เอาไปพาดหัวข่าว ซึ่งผมก็ไม่รู้ ผมก็ต้องดูว่าใครขย่มใคร และใครถูกใครผิด ผมก็จะตัดสินของผมเอง" เมื่อถามว่า หากดูตามระยะเวลาแล้ว คิดว่าถึงเวลาที่จะปรับครม.แล้วหรือยัง ในขณะที่ยังมีวิกฤติหลายด้าน นายกฯ กล่าวว่า "พวกท่านก็รู้ว่ายังมีวิกฤติอยู่ ดังนั้นวันนี้ก็ต้องทำงานกันไปก่อน แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องปรับก็จะปรับของผมไป แต่ขอให้เชื่อมั่นในกลไกของเรา การบริหารราชการแผ่นดินที่ผมได้สร้างไว้ ใครจะไปใครจะมา ก็ต้องรักษากฎระเบียบของผมที่วางไว้ ในพ.ร.บ.ต่างๆ ที่ทำไปใหม่ ทั้งพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ร.บ.การเงินการคลัง เราอาจจะยึดมั่นตัวบุคคลเป็นธรรมดาในเรื่องของความเชื่อมั่น แต่สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าตัวบุคคลทำงานร่วมกันไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้ถูกหรือไม่" เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯ ยึดนโยบายที่ทุกคนต้องสามารถสานต่องานที่วางได้ ถึงจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ล็อกถึงขนาดนั้น ตนคิดว่าตนจะพิจารณาเอง เมื่อถามว่า สิ่งสำคัญในการปรับครม.คืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อความสงบเรียบร้อย เมื่อถามว่าจะต้องปรับทัพครม.เศรษฐกิจ ใหม่ทั้งหมดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครม.ใหม่ถ้าปรับก็ต้องปรับครม.เศรษฐกิจด้วย เพราะครม.เศรษฐกิจ มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องและในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ตนได้เลื่อนการประชุมครม.เศรษฐกิจออกไปก่อน แต่ตนจะประชุมที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจทั้งหมดทั้งในและนอกระบบ มาพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นของเขา ว่ามีแนวความคิดอย่างไร ตนถึงจะนำเข้าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ นี่คือการริหารงานแบบนิวนอมอล เมื่อถามว่า ดูจากฝีมือการทำงานของกลุ่ม4กุมารแล้วครั้งหน้า น่าจะได้กับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "คุณจะถามให้ได้สาระอะไรตรงนี้ ผมตอบไปแล้วในภาพรวมและท่านเหล่านี้ก็ทำงานกับผมมาโดยตลอด มีความสำเร็จมามากมายพอสมควร แต่ก็ต้องไปดูว่ากลไกทางการเมืองว่ากันอย่างไร" เมื่อถามว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้มองคนนอกไว้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็มองไว้ ขึ้นอยู่กับว่า..." ทั้งนี้เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลุดมาถึงตรงนี้ก็ได้พูดต่อว่า "ก็มองไว้ทั่วทุกกลุ่ม ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมดูไว้ทั้งหมด รวมทั้งด้านสาธารณสุขก็ดู เพราะผมต้องรับผิดชอบทั้งครม." เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าครม.จะเป็นที่ยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดแล้วว่า การยอมรับเป็นเรื่องยากมากพอสมควร ต้องไปดูมิติอื่นๆ ร่วมด้วย การยอมรับ ไม่ยอมรับก็เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นเชื่อถือ บางส่วนที่คนอยากให้เข้ามาทำงาน เขาก็ไม่อยากจะมา แต่เราก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด ทุกกระทรวง ยืนยันว่า ยังไม่ได้ทาบใครเลย เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่าจะเปลี่ยนด้านความมั่นคงสาเหตุมาจากอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมพูดในภาพรวมไม่ต้องมาสงสัย มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมทั้งสิ้น ผมทำผิดพลาดอะไรในตำแหน่งรมว.กลาโหม ถ้าไม่ผิดแล้วจะเปลี่ยนทำไม" เมื่อถามว่า วันนี้มีกระแสข่าวเสนอชื่อพล.อ.อนุพงษ์ ​เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาเป็นรมว.กลาโหม แทน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า "ใครเสนอ ถ้าบอกว่ามีการเสนอตามหน้าข่าวต่างๆ ก็ต้องถามว่าใครเป็นคนเขียนข่าว เรื่องนี้ขอให้ฟังผมก็แล้วกัน" เมือถามว่ากระแสตีให้" 3 ป." แตกกันไม่มีความเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งเงียบก่อนที่จะกล่าวพร้อมส่ายศรีษะว่า "เป็นไปไม่ได้"