นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมสมาชิกพรรคก้าวไกลแถลงถึงกรณีระเบียบทรงผม และการคุกคามเสรีภาพของนักเรียนว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องทรงผม แต่เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของเด็กที่ถูกกดขี่ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีมานานแล้วไม่ว่าจะเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ปกครองและเด็ก พรรคก้าวไกลจึงมองว่าการละเมิดเด็กที่ไม่ควรเกิดขึ้นตอนนี้มี 6 มิติ คือ 1.เด็กที่ค้างค่าเทอม และครูก็ลงโทษเพื่อให้เกิดความอับอาย ซึ่งต้องถามว่าจะลงโทษทางวินัยครูอย่างไร 2.วินัยทรงผม ที่ลุกลามเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพเด็ก ซึ่งคนที่ไม่เคารพสิทธิเด็กขอเรียกร้องให้ลาออกจากการเป็นครู 3.การบังคับให้หมอบกราบ เป็นวัฒนธรรมไทยที่เราต้องสืบสานกันไป แต่ไม่ใช่การใช้อำนาจนิยมให้หมอบกราบเช่นนี้ 4.เรื่องเพศ ที่มีมาตรการเลือกปฎิบัติ อย่างไม่เป็นธรรมจากครูและบุคลากรทางการศึกษา 5.การคุกคาม ล่วงละเมิดเด็กทั้งในและนอกโรงเรียน รวมถึงในโซเชียลมีเดีย และ6.การข่มขู่คุกคามเด็กในโรงเรียน นอกโรงเรียน และโซเชียลมีเดีย “ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ ครูจะกระทำไม่ได้ หากอยากทำให้ลาออกจากการเป็นครู และควรเรียกตัวเองว่าอาชญากร พรรคก้าวไกลได้ยื่นข้อร้องเรียนต่อกมธ.การศึกษาฯ ซึ่งได้บรรจุเป็นวาระแล้ว โดยจะเชิญปลัดกระทรวงศึกษาธิการและเลขาสพฐ. เข้ามาทำงานและชี้แจงร่วมกัน เพื่อป้องปราม สกัดการลุกลามไม่ให้มีการคุกคามสิทธิเสรีภาพเด็กมากกว่านี้ และหาข้อยุติว่าครูที่กระทำงานลักษณะนี้จะมีโทษอย่างไร รวมถึงเอาผิดตามมาตรา 157 และลงโทษขั้นร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกจากราชการให้ได้ นอกจากนี้เราจะสนับสนุนให้ผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดีครูที่กระทำการดังกล่าว”นายวิโรจน์ กล่าว นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในฐานะรองประธานกมธ. กิจการเด็กเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาฯ เราตระหนักถึงสิทธิในการคุ้มครองเด็กโดยสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าระบบการดูแลช่วยเหลือของโรงเรียนภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการกล้อนผม การคุกคามทางเพศ การหมอบกราบ การทำร้ายร่างกายกันภายในโรงเรียน ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ลิดรอนเสรีภาพของเด็ก ซึ่งไม่ได้หมายถึงเด็กทั้งหมดเป็นผู้ถูกกระทำและครูทั้งหมดเป็นผู้กระทำ เรากำลังพูดถึงผลกระทบของเด็กที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว เรารู้ดีว่าการทำร้ายเด็กหรือละเมิดเด็กหนึ่งคนวันนี้ พวกเราก็อาจจะเป็นเหยื่อจากเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงในวันหน้า ซึ่งพรรคก้าวไกลขอยืนยันว่าจะใช้ทุกช่องทางในการร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางส.ส. กรรมาธิการ และทุกระบบในการช่วยเหลือในประเทศไทย เพื่อคุ้มครองเด็กต่อไป