"บิ๊กตู่"เผยประชุมสมช.สังคายนาโครงสร้าง วางยุทธศาสตร์ระยะยาว พร้อมรองรับภารกิจใหม่ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 เวลา 15.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 2/2563 ว่า การประชุมด้านความมั่นคงในวันเดียวกันนี้ได้มีการพิจารณาแผนงานต่างๆ โดยเฉพาะแผนแม่บทที่จะต้องมีแผนงานระยะที่ 3 รวมถึงมีแผนปฏิบัติการรองรับการปฏิบัติ ซึ่งคำว่าแผนก็คือ แผนตามสมมติฐานในปัจจุบัน ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป เช่น การมีไวรัสโควิด-19 เข้ามา ก็ต้องมีการปรับแผนใหม่ เมื่อแผนแม่บททำใหม่ แผนปฏิบัติข้างล่างก็ต้องปรับใหม่เช่นกัน ดังนั้นหลายอย่างจากแผนงานก็กลายเป็นคำสั่งในเชิงปฏิบัติ วันนี้ก็เป็นเรื่องของการวางยุทธศาสตร์มองระยะยาวในหลายเรื่อง รวมถึงการปรับองค์กรต่างๆ เช่น การปรับระเบียบภายในสมช. เหล่านี้ถือเป็นส่วนประกอบให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมรับทราบการจัดตั้งคณะกรรมการ 2 คณะเพื่อเป็นกลไกลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ได้แก่ คณะกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มีรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกฯมอบหมายเป็นประธาน และคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคงและนโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ ประกอบด้วย คณะกรรมการ 5 คณะ ซึ่งมีส่วนหัวหน้าราชการตามที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน อีกทั้งที่ประชุมรับทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในของสมช. เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นำไปสู่การจัดตั้งกองความมั่นคงทางทะเล เพื่อพัฒนา นโยบายยุทธศาสตร์และประสานงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มกฎหมายในการอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ที่ประชุมยังรับทราบข้อเสนอของการเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความคืบหน้าการพูดคุยเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ยังได้พิจารณาร่างแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองระยะที่ 1 ( พ.ศ.1563-2565) เพื่อบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างเป็นระบบ ภายใต้กฎหมาย