ชายวัย 39 ไม่มีไข้ไม่มีอาการ ขณะอยู่เมืองไทยเช่าหออยู่คนเดียวที่เพชรบุรี และขี่มอเตอร์ไซค์มาทำงานที่สมุทรปราการ โดยใช้ชีวิตระหว่างโรงงานกับหอพัก หลังทราบเรื่อง รีบส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบทั้งที่หอพักและโรงงาน ค้นหาคนใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่าพบแรงงานชาวเมียนมาป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศไทย (ในรายที่ 312 ของประเทศเมียนมา) นั้น กรมควบคุมโรคได้ประสานข้อมูลกับประเทศเมียนมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยมอบหมายกองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 5 จังหวัดราชบุรี (สคร.5 จ.ราชบุรี) และสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก (สคร.2 จ.พิษณุโลก) เร่งสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จากการสอบสวน พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชาย อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 6 ก.ค.63 ไม่มีไข้ หรืออาการผิดปกติ การอยู่ในประเทศไทยผู้ป่วยเช่าหอพักอยู่คนเดียวในพื้นที่จ.เพชรบุรี และขี่รถจักรยานยนต์มาทำงานในโรงงานในพื้นที่จ.สมุทรสงคราม ผู้ป่วยใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่โรงงานกับหอพัก และไม่ได้ไปทำงานตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.63 โดยช่วงที่ออกจากงานถึงเดินทางกลับเมียนมา (11-23 มิ.ย.63) ผู้ป่วยอยู่ที่พักทุกวัน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.63 โรงงานมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรค โดยวัดอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าทำงาน ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีจุดจ่ายแอลกอฮอล์ล้างมือ เน้นรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล มีการทำความสะอาดโรงอาหารและแผงกั้นบนโต๊ะอาหาร และจากข้อมูลการเจ็บป่วยของคนงานในโรงงานช่วงพ.ค.-มิ.ย.63 พบว่าไม่มีคนงานที่มีอาการป่วยตามนิยามของโควิด 19 หรือการเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน ทั้งนี้ หลังจากได้รับรายงานในพื้นที่ กรมควบคุมโรค ได้ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) จากสคร.5 จ.ราชบุรี ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ สอบสวนโรคในพื้นที่หอพักและโรงงานดังกล่าว โดยได้ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยง และตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ และให้คำแนะนำป้องกันควบคุมโรคกับทางหอพักและโรงงานด้วย นอกจากนี้ สคร.2 จ.พิษณุโลก ยังได้ประสานเพื่อตรวจสอบข้อมูลกับทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด 2 จ.ตาก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านในการสอบสวนโรค นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการในชุมชน แต่ที่ประเทศไทยไม่มีการระบาด เพราะทุกคนยังคงร่วมกันเคร่งครัดมาตรการป้องกันโรคดังกล่าวอย่างจริงจัง ทั้งการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงช่วยกันสอดส่องดูแลและแจ้งข่าวกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อเฝ้าระวังร่วมกัน ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง และตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางตามจุดผ่านเข้าออกพรมแดนของประเทศอย่างเข้มข้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422