นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินงานโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ขึ้น เน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ วางระบบการผลิตและการบริหารจัดการร่วมกัน เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเน้นการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต นำไปสู่การจัดการสินค้าเกษตรสู่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน สร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรได้อย่างมั่นคงในอนาคตตามแผนปฏิรูป โดยเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่จะร่วมกันกำหนดเป้าหมายการผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอน จนถึงการเชื่อมโยงตลาดกับภาคเอกชนแบบประชารัฐ อีกทั้งนำไปสู่ความร่วมมือในการผลิตส่งผลให้เกิดขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น(Economy of Scale) กรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการด้านการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสินค้าแปลงใหญ่เกษตรด้านพืช (ไม่รวมนาแปลงใหญ่) ผึ้งและแมลงเศรษฐกิจ และด้านการส่งเสริมการบริหารจัดการแปลงใหญ่ในภาพรวมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินการส่งเสริมมาจนปัจจุบัน ได้มีการจัดตั้งเกษตรแปลงใหญ่ขึ้นทั่วประเทศแล้วถึง 6,888 แปลง รวมพื้นที่ 6,578,392 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 406,755 ราย ชนิดสินค้าเกษตรประมาณ 90 รายการ นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเปิดเผยว่า สิ่งที่สำคัญและกรมส่งเสริมการเกษตรกำลังเร่งดำเนินการในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ รวมถึงตามนโยบายตลาดนำการเกษตรของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์คือ การขับเคลื่อนความร่วมมือในการเชื่อมโยงการทำงานด้านการผลิตและการตลาดกับภาคเอกชนต่างๆ ทั้งที่เป็นแผนระยะเร่งด่วน และแผนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ความร่วมมือด้านการตลาดเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แล้วใน 3 ช่องทางการจำหน่ายสินค้าจากเกษตรแปลงใหญ่ ที่เน้นผลิตสินค้าเกษตรในระดับเกรดพรีเมี่ยมเป็นหลัก คือ ช่องทางขายส่งภายใต้ความร่วมมือกับห้างแม็คโคร ช่องทางปลีกภายใต้ความร่วมมือกับห้างเทสโก้โลตัส และช่องทางออนไลน์ต่างเช่น www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com สำหรับช่องทางขายส่ง กรมส่งเสริมการเกษตรขับเคลื่อนความร่วมมือในการเชื่อมโยงการทำงานด้านการผลิตและการตลาดกับบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้มีการวางแผนการดำเนินการร่วมกัน ทั้งแผนระยะเร่งด่วน (Quick win) และแผนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากแผนระยะเร่งด่วน บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด ได้ทดลองซื้อผลผลิตเผือกหอมจากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่เผือกตำบลหรเทพ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ส่งเข้าศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า โดยเริ่มส่งผลผลิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด ได้มีการรับซื้อผลผลิตเผือกหอมอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 15 ตัน ส่วนแผนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ได้วางแผนเชื่อมโยงในกลุ่มสินค้าพืชผักเพิ่มเติม โดยเริ่มจากจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ก่อน จากนั้นจึงขยายผลต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกรแปลงใหญ่ ให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด เพื่อให้เกษตรกรผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด มีช่องทางจำหน่ายผลผลิตผ่านสาขาของแม็คโคร มากกว่า 130 สาขา ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตให้เน้นการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย ได้มาตรฐาน ตามที่ได้ตกลงกัน ส่วนช่องทางขายปลีก กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ทำการเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดกับเทสโก้ โลตัส โดยเริ่มจากสินค้าในกลุ่มพืชผักเป็นลำดับแรก และได้ร่วมกันคัดเลือกกลุ่มแปลงใหญ่ผักที่มีศักยภาพทั้งการบริหารจัดการกลุ่ม พื้นที่ตั้งแปลง และการขนส่งผลผลิต โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่าย ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันมีแปลงใหญ่ผักที่ดำเนินการร่วมกับเทสโก้ โลตัส จำนวน 4 แห่ง ครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านโนนเขวา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรทำสวนผสมผสานแบบยั่งยืนบางท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฏร์ธานี กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาคูร่วมใจพัฒนา อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักปลอดภัย ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ขณะเดียวกันกรมส่งเสริมการเกษตร และเทสโก้ โลตัส ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร สู่ตลาดนำการเกษตรร่วมกัน เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมความร่วมมือที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิต ให้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้งร่วมพัฒนา แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการลงนามความร่วมมือนี้ โดยช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดทำโครงการส่งเสริมตลาดเกษตร online ภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตรขึ้น เพื่อช่วยเป็นสื่อกลางในการนำสินค้าเกษตรคุณภาพดี จากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ให้ถึงมือผู้บริโภค ในรูปแบบของเว็บไซต์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูล และช่องทางการติดต่อซื้อขายสินค้าเกษตรแบบออนไลน์ทุกช่องทางในการติดต่อซื้อขายระหว่างผู้บริโภคกับเกษตรกรผู้ผลิตตัวจริง รวมทั้งระบุรายละเอียดของสินค้า มาตรฐานที่ได้รับการรับรอง ช่วงเวลาที่สินค้ามีจำหน่าย กำลังการผลิต และวิธีการขนส่งที่ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก ใช้ชื่อว่า www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com ซึ่งมีสโลแกนว่า “เกษตรกรจริงจริง ทุกสิ่งปลอดภัย เพียงคุณสั่ง เราพร้อมส่ง” โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา “www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com มีสินค้าทางการเกษตรพร้อมให้ผู้บริโภคเลือกซื้อ ทั้งผลผลิตสด สินค้าแปรรูป และสินค้าหัตถกรรม จำนวน 9 หมวด จำนวนสินค้า 535 รายการ จาก 77 จังหวัดได้แก่ ข้าวและธัญพืช ผัก ผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม สมุนไพรและเครื่องสำอาง ผ้าและเครื่องแต่งกาย หัตถกรรมและสิ่งประดิษฐ์ และสินค้าอื่นๆ” โดยตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.เป็นต้นมา www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com ของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยมียอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ วันที่ 21 มิ.ย.63 พบว่า มียอดจำหน่ายรวมกว่า 36 ล้านบาท และมีสินค้าจากหลายจังหวัดที่ได้รับความนิยม ซึ่งสามารถทำรายได้เฉลี่ยถึงจังหวัดละ เฉลี่ย 93,785 บาท อีกทั้งเกษตรกรเกษตรกรสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่ต่างมีความเห็นว่า การเข้าร่วมนำเสนอสินค้าใน ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com เป็นประโยชน์ ทำให้มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น และขอสมัครเข้าร่วมโครงการอีกเป็นจำนวนมาก “ช่องทางการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรแปลงใหญ่ ทั้ง 3 ช่องทาง นับเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนที่เป็นผู้บริโภค สามารถเลือกซื้อสินค้าเกษตรคุณภาพดี เป็นผลผลิตจากเกษตรกรตัวจริงที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้าคุณภาพได้มาตรฐานในระดับเกรดพรีเมี่ยม ขณะที่เกษตรกรมีช่องทางการจัดจำหน่าย มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น สร้างความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน ความสำเร็จในการประกอบอาชีพของเกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรแปลงใหญ่ ถือเป็นความภาคภูมิใจของกรมส่งเสริมการเกษตรที่สามารถทำงานได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่”