เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน, พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.จารุดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ตามหมายจับที่ยังต้องการตัว รวม 4 หมาย 1. หมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ จ.112/63 ลง 8 เม.ย.63 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” 2. หมายจับศาลแขวงเวียงป่าเป้า ที่ จ.15/2563 ลง 28 เม.ย.63 ซึ่งต้องหาว่า “ฉ้อโกง” 3. หมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 110/2563 ลง 13 มี.ค.63 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปหรือโดยการแพร่ข่าวด้วยวิธีใด” 4. หมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 210/2563 ลง 12 พ.ค.63 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปหรือโดยการแพร่ข่าวด้วยวิธีใด” สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จารุดา (ผู้ต้องหา) ที่ได้ร่วมกับน้องสาวซึ่งเป็นท้าวแชร์หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยใช้เพจ ที่มีชื่อว่า Two Hand Shop หลอกให้ผู้เสียหายลงทุนลูกปัดสี คัดแยกลาย คัดแยกสีลูกปัด โดยให้ลงทุนค่าอุปกรณ์ 800 บาท หากทำเสร็จจะคืนเงินค่าอุปกรณ์ให้ และจะจ่ายค่าแรงหรือกำไรให้อีก 300 บาท และยังมีการเชิญชวนให้ลงทุนนับแยกสีห่วง โดยให้ลงทุนค่าอุปกรณ์ 1,000 บาท โดยจะได้ค่าแรงรอบละ 650 บาท ซึ่งทางผู้ต้องหามีการส่งเอกสารทะเบียนพาณิชย์มาให้ผู้เสียหายดู จึงทำให้ผู้เสียหายมั่นใจ และหลงเชื่อลงทุน ซึ่งในช่วงแรกผู้ต้องหาได้จ่ายค่าตอบแทนจริงตามที่ได้โฆษณาไว้ แต่เมื่อลงทุนเพิ่มอีกครั้งต่อไป ผู้ต้องหากลับจ่ายค่าแรงไม่ตรงตามที่ตกลง และจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกจำนวนกว่าร้อยราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท