"บิ๊กแดง"บ่นไร้สาระ ข่าวต่ออายุ ชี้ทำให้เกิดความขัดแย้ง ยัน 30 ก.ย.ส่งธงให้ "ผบ.ทบ.คนใหม่" ถือว่าหมดหน้าที่ เตรียมเซตซีโรตัวเอง วันที่ 8 ก.ค.63 ที่หมวดบิน C หน่วยบินเดโชชัย กองบิน 6 (บน.6 ดอนเมือง) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวต่ออายุราชการ โดยได้หัวเราะในลำคอ ก่อนจะตอบว่า จากใจตน และตนถามตัวเองอยู่เสมอว่า อย่างแรกเราเป็นทหารอาชีพ และ 2. แนวทางการรับราชการถูกกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องเกษียณอายุราชการ บางคนพยายามไปขุดคุ้ยว่ามีอยู่ 2 คน ประสบความสำเร็จในการต่ออายุราชการ ซึ่งไม่ใช่ ดังนั้นอย่าไปสร้างกระแส ในส่วนของตนปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงกลาโหมและระเบียบในการเกษียณอายุราชการ รวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคน พี่จะเกษียณอายุราชการ "เราก็การคุยกันในการประชุม ผบ.เหล่าทัพเราก็หารือกันว่า ข่าวพวกนี้ ไม่ใช่ข่าวเชิงสร้างสรรค์ จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ผมมองแล้วไม่มีสาระและไม่มีข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้นเลย และวันที่ 30 ก.ย.63 ผมก็ส่งธงตำแหน่ง ผบ.ทบ. และถือว่าหมดภาระหน้าที่ก็จบภารกิจในการเป็น ผบ.ทบ." พล.อ.พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องต่ออายุราชการใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ ย้อนถามว่า มีความจำเป็นอะไร ที่ต้องต่ออายุราชการ เพราะบ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นเอง อยากให้เอาความจริงมาสู้กัน อย่าพูดเพียงท่อนเดียวแล้วเอาไปขยายความ ซึ่งตนก็เคยพูดไปแล้วเรื่องสื่อโซเชียลออนไลน์ เมื่อถามว่า ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจอะไรหรือไม่ในช่วงใกล้เกษียณอายุราชการ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มี เพราะในช่วงรับราชการได้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ที่คิดว่าดีที่สุดกับกองทัพ และประเทศชาติ และที่สำคัญการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคนที่จะต้องมารับหน้าที่ต่อ ที่จะต้องทำหน้าที่นี้สืบสานต่อไปไม่ว่าจะเป็นเหล่าทัพใด "ในส่วนของกองทัพบกมีแนวทางและวิธีการปฏิบัติ รวมถึงหลักนิยมในการสื่อสารและการดำเนินการหลายอย่าง โดยในเดือนสิงหาคมผมจะแถลงผลงานในหลายเรื่อง ซึ่งบางคนยังเอามาโจมตีว่า สายตรง ผบ.ทบ.เป็นอย่างไร ผมจะสรุปให้ฟังว่ากองทัพบกได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งรายงาน เราเป็นองค์กรที่มีระเบียบวินัย เมื่อพูดคำพูดคือนาย เมื่อพูดไปแล้ว ก็ต้องทำ กำลังพลเมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องปฏิบัติ ใครผิด ต้องลงโทษใครไม่ดี ก็ลงโทษ ย้าย ปลด"ผบ.ทบ.กล่าว ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาทุกอย่างของกองทัพบกมีความคืบหน้าไปมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามทำในโซเชียลและผู้ที่ยังไม่เข้าใจพยายามสร้างความขัดแย้งหรือความแตกแยกพยายามนำมาเป็นประเด็น เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหาร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้บัญชีโยกย้ายนายทหารอยู่ที่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่หารือกันในที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จะส่งรายชื่อ แต่เชื่อว่าทุกเหล่าทัพจะมองบุคคลที่มีความเหมาะสมมาทำงานต่อในทุกตำแหน่ง ไม่ใช่เพียงตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพอย่างเดียวเรามีแนวทางอยู่แล้วที่ชัดเจน เมื่อถามว่า แต่ละเหล่าทัพได้หารือร่วมกันหรือไม่ แต่ละเหล่าทัพ จะให้ใครขึ้นมา พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในแต่ละเหล่าทัพ ต้องพิจารณาและเสนอ ซึ่งยังผ่านคณะกรรมการกองทัพไทย ก่อนจัดต้องไปที่กลาโหมสำนักปลัดยังเหลืออีกหลายขั้นตอน เมื่อถามว่า มีการจับตาหลังเกษียณจะไปทำอะไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขอให้ดูต่อไป ว่าจะไปทำอะไร เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ จะดูแลสถานการณ์ต่อจากนี้ได้หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนจะไปรู้แทนคนที่จะมาเป็น ผบ.ทบ. หรือไม่ ขอให้ไปรอถามในวันที่ 1 ต.ค. ก็แล้วกัน ส่วนสถานการณ์ในอนาคตจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่นั้น ตนยังมองไม่เห็นว่าจะเกิดความวุ่นวายอย่างไรหรือมีอะไร นายกรัฐมนตรี ก็บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมและที่สำคัญมีความเด็ดขาดในการบริหาร โดยเฉพาะในสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งพวกเราควรชื่นชม ในขณะทั่วทั้งโลกชื่นชมทีมแพทย์ ความมีวินัยของคนไทยในชาติ ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น "ดังนั้น หากถามผมว่าข้างหน้าจะเกิดอะไร ผมไม่ทราบ เพราะไม่รู้คือสถานการณ์ทุกอย่างเป็นลักษณะวันต่อวัน และเดือนต่อเดือน ไม่สามารถที่จะไปคาดการณ์ได้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น หรือคนที่จะมาเป็น ผบ.ทบ. จะทำอะไรอย่างไร ผมไม่ทราบ แต่โดยส่วนตัวผมเมื่อจบภารกิจบทบาท ผมก็เซตซีโร่ตัวเอง"ผบ.ทบ.กล่าว เมื่อถามว่าหากนายกฯ ขอให้มาช่วยงาน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นายกฯคงไม่ทำ อย่างนั้น และตนคงไม่เข้ามามีบทบาทอะไร และอย่าลืมว่านายกรัฐมนตรีปัจจุบันบริหารราชการบ้านเมืองและมาจากการเลือกตั้ง ที่มาโดยรัฐธรรมนูญ การจะเลือกสรรบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำงาน คงไม่ใช่ตน