เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงภายหลังเกิดเหตุการณ์สภาฯ ล่มครั้งแรกในสมัยประชุมครั้งที่ 2 ในการพิจารณาแผนรายงานการปฏิรูปประเทศ โดยนายสุทิน กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศคือคำมั่นสัญญาของรัฐบาล และเป็นข้ออ้างก่อนการยึดอำนาจเช่น อ้างว่าต้องมี ส.ว.ช่วงเปลี่ยนผ่าน และเป็นข้ออ้างหลายๆอย่างจนสังคมให้โอกาส ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ซึ่งเราต้องการสะท้อนเสียงของสังคมผ่านไปยังรัฐบาล แต่รัฐบาลทำเสมือนใช้สภาเป็นตรายาง มาครั้งนี้รัฐบาลและส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ไม่เข้าร่วมประชุม จึงเสนอนับองค์ประชุมจนสภาฯ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ฝ่ายค้านหวังว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐบาลตระหนักคิดได้ว่าจะเอาอย่างไรกับการปฏิรูปต่อ และเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจเรา ทั้งนี้ การนับองค์ประชุม และการวอล์กเอาท์ เป็นกายกระดับกระตุ้นเตือน แต่ถ้ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญอีกเราก็จะยกระดับให้มากขึ้น ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเห็นร่วมจากการประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าเสียงสะท้อนจากประชาชนที่เฝ้าติดตามการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลพบว่าผลการปฏิบัติจริงๆ ไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการจัดทำแผนปฎิรูป นำแผนปฏิรูปไปปรับปรุงแต่ไม่ขยับเขยื้อน ทั้งนี้รัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อปี 2560 กฎหมายแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศออกในปีเดียวกัน ซึ่งเสนอแยกระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและรายงานวุฒิสภา เขาได้เขียนกฎหมายแผนและขั้นตอนรองรับ ผลสัมฤทธิ์ ตัวชี้วัดเป้าหมายจะรายงานในรอบปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้ติดตามทุก 3 เดือนว่าก้าวหน้าอย่างไร "ดังนั้นวันนี้ฝ่ายค้านจึงใช้กลไกของสภาฯ ในการบอกกล่าวกับคณะรัฐมนตรี ผ่านประธานสภาฯ และการนับองค์ประชุมถือเป็นมาตรการที่เบาที่สุด หากถ้าองค์ประชุมครบถือว่าเราพร้อมที่จะตรวจสอบรายงานนี้ได้ตลอด ซึ่งขออย่าใช้เราเป็นตรายาง แต่หากไม่มีความพร้อมแม้แต่ ส.ส. ซีกของรัฐบาลก็ยังไม่ให้ความสำคัญจึงออกมาในรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตามหากองค์ประชุมครบในวันนี้มาตรการต่อไปเราจะวอล์กเอาท์เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมแต่เพียงมาตรการแรกเราก็ประสบความสำเร็จแล้ว"นพ.ชลน่าน กล่าว ขณะที่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจขอนับองค์ประชุม แต่รัฐบาลละเลย ในขณะที่เราเฝ้าสภาฯตลอด เพราะที่ผ่านมาเราเคยชินกับการเป็นรัฐบาล ทั้งนี้การปฏิรูปเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐมนตรี และส.ส.ซีกรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ มูลเหตุการรัฐประหารก็เพราะอ้างเรื่องการปฏิรูป แต่ท้ายที่สุดกลับทำเป็นเพียงเอกสารรูทีนเข้ามาให้สภาฯพิจารณาเท่านั้น ซึ่งเหมือนไม่ให้เ้กียรติสภา และฝ่ายค้าน ในขณะที่เราตั้งใจทำงานให้ประเทศ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้รัฐบาลเข้าใจและตระหนักว่าสภาคือองค์กรที่สำคัญ