หลังจากนายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพการทรมานลิงซึ่งเป็นภาพเก่าและเป็นภาพจากต่างประเทศ จนถูกโซเชียลวิจารณ์นั้น ล่าสุดนายนิติพล เมื่อวันที่7ก.ค. เมื่อเวลา16.00น.นายนิติพลได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่า... ก่อนที่ผมจะมาเป็น ส.ส. ผมทำงานคลุกคลีกับงานสิ่งแวดล้อมมาก่อน ผมติดตามประเด็นเรื่องสัตว์ที่เกี่ยวโยงกับระบบเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุขในประเทศไทยและในต่างประเทศมาพอสมควร โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสัตว์ในไทยที่เกี่ยวข้องกับการทำมาค้าขายกับต่างประเทศ ปัญหาและอุปสรรคที่ประเทศเราเผชิญหน้าในการค้าขายกับต่างประเทศ ไม่ว่าเรื่องกุ้ง ไก่ ปลา เนื้อสัตว์ และมาล่าสุดคือเรื่องลิงกับผลิตภัณฑ์มะพร้าว จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจใดๆก็ตามที่มีสัตว์เข้ามาเกี่ยวข้องจะต้องถูกตั้งคำถาม เหตุผลเพราะว่าปัจจุบันการทำธุรกิจในรูปแบบของความรับผิดชอบกำลังเป็นเรื่องที่บริษัทชั้นนำหลายๆประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เช่น การเข้าร่วมโครงการด้านสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare Policy) และเขาพยายามอย่างมากเพื่อนำบริษัทของตนเข้าสู่ระบบนั้น และปัญหาเรื่องกระทิไทยก็ไม่ใช่ปัญหาแรกที่เราเผชิญมา เราโดน กดดันหนักหน่วงมาก่อนหน้านั้นแล้วทั้งเรื่องเรื่องกุ้งและปลา แม้กระทั่งเรื่องการส่งออกเนื้อสัตว์ เรื่องตลาดการส่งกะทิและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ทั่วโลกเขายอมรับในคุณภาพกะทิจากประเทศไทย ถึงแม้เราจะมียอดการค้ารองจากหลายประเทศในเอเซียเนื่องจากปริมาณพื้นที่การปลูกและปริมาณการผลิตที่น้อยกว่า แต่กะทิไทยได้รับความนิยมติดอันดับต้นๆที่มาพร้อมรายการเมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก ในฐานะที่เป็นคนไทยผมภาคภูมิใจที่ได้เห็นสินค้าไทยตั้งอยู่บนแผงขายบนร้านสรรพสินค้าในต่างประเทศ และผมอยากให้มีสินค้าไทยมากมายหลายรายการไปขายตามที่ต่างๆทั่วโลก แต่สิ่งหนึ่งเราต้องมาทบทวนกันให้ดี คือการที่เราจะทำมาค้าขายกับใคร ถ้าเราถูกตั้งคำถามเราต้องมีคำตอบที่จริงใจให้กับประเทศคู่ค้าของเราเพราะ นั่นคือการค้าขายที่เป็นระดับสากล เนื่องจากปัจจุบันการประกอบธุรกิจใดๆทั่วโลกเขาได้เดินเข้าสู่เรื่องของการมีส่วนร่วม การปกป้อง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งเรื่องการรับผิดชอบที่มีเรื่องศีลธรรมและจริยธรรมมาเป็นองค์ประกอบในการทำธุรกิจ ถ้าผู้ประกอบการใดก็ตามทำธุรกิจโดยหวังแข่งขันเพื่อสร้างแต่ผลกำไรโดยไม่สนใจกับองค์ประกอบเหล่านั้น ธุรกิจเหล่านั้นย่อมสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับประเทศคู่ค้าของไทย แต่ถ้าเรามีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ว่าในเรื่องบทสรุปของการแก้ไข มันก็จะทำให้เรามีทางออกง่ายขึ้น เรื่องกะทิไทยที่ถูกแบนในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิด ถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวสารเรื่องนี้มาโดยตลอดจะทราบว่าทางประเทศคู่ค้าหลายประเทศเขาได้ตั้งคำถามเรื่องการใช้ลิงเก็บมะพร้าวมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2558 ซึ่งมันเป็นเวลานานพอสมควร ถ้าเรามีคำตอบที่ชัดเจนให้กับคำถามเหล่านั้น เหตุการณ์วันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น วันที่ผมทำงานกับภาคประชาสังคมในฐานะประชาชน ผมทำงานเพื่อเก็บข้อมูลปัญหาและความผิดพลาดในอดีตที่หน่วยงานรัฐบางกลุ่มอาจจะทำงานบ้างแต่ทำไม่สามารถทำได้เต็มที่ มาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหานั้น ทั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ ในวันนี้ผมมาเป็น ส.ส. ผมก็อยากจะนำเสนอกับสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเพื่อให้มีการแก้ไข เพื่อการเดินหน้าของประเทศไทยต่อไป อนึ่ง สำหรับข้อความที่ผมโพสต์ไป หลายคนพยายามใช้มาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อโจมตีผมและพรรคก้าวไกล ผมก็ไม่สามารถไปห้ามท่านได้ แต่ผมเชื่อว่าประชาชนที่เขาติดตามข่าวสารนี้อย่างใกล้ชิดจะเข้าใจถึงเนื้อในของปัญหา จากข้อมูลความเป็นจริงที่ปรากฏขึ้น ขอบคุณครับ #ทนายต้น #saveทุกชีวิต #สิ่งแวดล้อมและสิทธิสัตว์