”6 ส.ส.ดาวฤกษ์”ลงพื้นที่หนองจอก เร่งแก้ปัญหาโครงการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ด้าน "มาดามเดียร์" เชื่อ พปชร.เฟ้นหาทีมเศรษฐกิจที่เหมาะสม เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เขตหนองจอก กทม. 6 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นำโดย น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.เขตหนองจอก,นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา ,น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร , น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง, น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.เขตดุสิต-บางซื่อ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชุมชนตลาด 100 ปี หลังชาวบ้านคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนกั้นน้ำเนื่องจากได้รับผลกระทบ และเกรงจะเป็นการทำลายวิถีชีวิตชุมชนและทัศนียภาพริมคลอง ที่สู้รักษามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่าสืบเนื่องจากที่พวกเราได้ติดตามปัญหาของหลายชุมชน ที่มีปัญหาเรื่องอาคารใน กทม.ในส่วนของเขตหนองจอกถือเป็นพื้นที่รับน้ำจากคลองแสนแสบ และมีปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งมาโดยตลอด พวกเราจึงต้องลงมาดูความเดือดร้อนของประชาชนในเขตปริมณฑล ที่มีความเชื่อมโยงไปถึงพื้นที่ กทม.ชั้นใน โดยประชาชนหลายคนมีความเห็นว่าโครงการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ มีการทำลายวิถีชีวิตชุมชนและทัศนียภาพริมคลอง ที่รักษามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความขัดแย้งกันของประชาชนในพื้นที่ ที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยวันนี้พวกเราจึงต้องฟังความเห็นของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจากที่ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้ ปัญหาความขัดแย้งของชาวบ้านน่าจะเกิดจากการที่ไม่ได้ทำความเข้าใจก่อนที่จะเริ่มโครงการดังกล่าว ด้านนายศิริพงษ์ ในฐานะ ส.ส.เขตหนองจอก กล่าวว่า โครงการสร้างเขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชนหลายหลังคาเรือนที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ทางกลุ่มเราก็ต้องลงมารับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน และหาแนวทางแก้ไขต่อไป ขณะที่นางกรณิศ เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาฯสัปดาห์หน้าจะเริ่มมีการพิจารณาญัตติขอให้สภาฯตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับใช้ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร กรณีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกันในพื้นที่ส่วนบุคคล ที่ตนได้ยื่นไว้ในวาระประชุมนานแล้ว และในตอนนี้มีวาระการพิจารณากฎหมายผังเมืองใหม่ กำลังจะรอส่งเข้าไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะบังคับใช้กฎหมายผังเมืองใหม่ ซึ่งมันจะเกี่ยวข้องกับปัญหาการก่อสร้างอาคารสูงที่ประชาชนร้องเรียนมา ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ตนจึงจะนำเรื่องนี้เข้าอภิปรายในที่ประชุมสภาในครั้งเดียวกัน เพื่อให้ทันต่อการพิจารณาแก้ไขผังเมือง น.ส.วทันยา กล่าวถึงผลสำรวจของประชาชนที่ไม่สนับสนุนให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พปชร.ได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการพรรคบริหารพรรคชุดใหม่ และตนเชื่อว่าหลังจากนี้ในส่วนของผู้ที่ทำงานในส่วนต่างๆจะได้มีการกำหนดตัวบุคคลที่เหมาะสมที่จะมาเป็นตัวแทนของพรรคในการทำงาน ซึ่งส่วนตัวก็จะรอดูในเรื่องของการมอบหมายตำแหน่งงานต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ แต่ขณะนี้ยังคงไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้น น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า ในการคัดเลือกบุคคลที่จะให้ทำงานในตำแหน่งต่างๆก็คงของเป็นไปตามเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกพรรค และหลังจากนี้ก็ต้องรอดูว่าผลจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ในฐานะที่ตนเองและ ส.ส.ทุกคนมาจากระบบประชาธิปไตย ก็จะให้การเคารพกับเสียงส่วนใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็มั่นใจว่าการทำงานนั้นจะสามารถทำให้พรรคเดินไปข้างหน้า และเกิดการบริหารงานอย่างแท้จริง และ ส.ส.ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมโยงกับพี่น้องประชาชน ที่จะรับรู้ปัญหาและขับเคลื่อนปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไข และเรื่องนี้การทำงานเพียงแค่คนเดียวคงไม่สามารถที่จะสะท้อนปัญหาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง และในการทำงานตนคิดว่าคนที่จะมาเป็นแม่ทัพหลักจะต้องรับฟังเสียงของสมาชิกพรรค รวมถึงเสียงของประชาชนในเรื่องของความเดือดร้อนและความต้องการที่จะต้องรับฟังและเดินหน้าทำงานอย่างความเท่าเทียม “วันนี้พวกเราทุกคนเดินหน้าทำงานมาโดยตลอด และทำงานมาตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเลือก ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และท้ายที่สุดไม่ว่าโครงสร้างของพรรคหรือบุคคลที่จะมารับตำแหน่งต่างๆเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่จุดยืนของ ส.ส.ที่จะต้องทำงานเพื่อประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด “น.ส.วทันยา เมื่อถามถึงผู้นำทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า คิดว่าคงไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นนักวิชาการ หรือนักการเมือง แต่สิ่งที่สำคัญในขณะนี้ที่เห็นจากเสียงสะท้อนของประชาชนหลังจากการเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ความยากลำบาก จึงมีความท้าทายอย่างยิ่งยวด ดังนั้นคิดว่าในจุดนี้เองคนที่จะมารับตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะต้องประกอบไปด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ และที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์ในการทำงาน ไม่ว่าจะระดับประเทศหรือระดับท้องถิ่น และจะต้องสื่อสารสร้างความเชื่อมั่นไปยังต่างประเทศได้และจะต้องเป็นบุคคลที่สร้างศรัทธาให้กับประชาชน เพราะต้องบอกว่าวันนี้เรื่องของปากท้องประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด