วันที่ 5 ก.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 12) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 63 และ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่ 7/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 63 ประกอบกับ ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 ก.ค. 63 ซึ่งห้ามอากาศยานขนส่งบุคคลทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานประเทศไทยเว้นแต่เป็นกรณี 11 กลุ่มผู้โดยสาร นั้น ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่ง ในจำนวน 11 กลุ่ม ที่ได้รับการยกเว้น ทางอากาศยาน ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้แยกกัน กักกัน หรือคุมไว้สังเกตุ โดยผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้ง 11 กลุ่ม จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อันดับแรก ในการเตรียมตัวก่อนเดินทาง ผู้โดยสารต้องตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเทศหรือไม่ พร้อมกับ เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขบุคคลแต่ละประเภท โดยติดต่อสถานทูตไทยหรือกงสุลไทย ประจำประเทศต้นทาง เพื่อขอหนังสือรับรอง (Certificate of Entry) ซึ่งผู้โดยสาร (เฉพาะบุคคลบางประเภท) ต้องมีใบรับรองการตรวจ COVID-19 FREE โดยวิธี RT-PCR มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง, ประกันภัยครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลาในไทยไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลล่าสหรัฐ พร้อมเข้ารับการกักตัวของรัฐ (State Quarantine) หรือ การกักตัว ในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine) หรือคุมตัวไว้สังเกตุ ตามมาตรการควบคุมโรค ตามเงื่อนไขของแต่ละประเภท และ เมื่อเข้ามาภายในราชอาณาจักรแล้ว ผู้เดินทางต้องโหลดแอปพลิเคชั่น เพื่อติดตามอาการ เข้าสถานที่ต่างๆและรายงานสุขภาพตนเอง พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผล.ทสส./ผอ.ศปม. ในกรณี อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยตามการผ่อนปรนของ ศบค. โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด เพื่อการควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมหน่วยร่วมปฏิบัติทุกภาคส่วน ยังคงมาตรการเข้มข้น ในกระบวนการคัดกรองและกักกันคนไทย หรือ บุคคลที่ได้รับการยกเว้น ที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศ ตามมาตรการและแนวทางที่กรมควบคุมโรคกำหนดไว้โดยเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดและให้ประเทศไทย ปราศจาก เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากต่างประเทศเข้ามา