ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-2020 คืนวันที่ 4 ก.ค.63 ระหว่างทีม "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" พบกับทีม "บอร์นมัธ" เริ่มการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก โดยในนาที่ 10 เป็นฝ่ายเจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำก่อน ในจังหวะที่ บรูโน่ กระดกแรงไปลอยข้ามคาน ต่อมา แมนฯ ยู มาได้จังหวะลุ้นประตูอีกครั้งหลังจากที่ แรชฟอร์ด เปิดจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ บรูโน่ วิ่งตามบอลถึงเขตโทษต้องรีบกระดกหนี แรมสเดล ที่ออกมาไกลจากเส้นเพื่อปิดมุมแต่ก็แรงไปข้ามคาน กระทั่งในนาทีที่ 15 บอร์นมัธ มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวัที่ สตานิลาส แตะลอดขา แมกไกวร์ ก่อนยิงเบียดเสาเข้าไป ต่อมาในนาทีที่ 29 เจ้าถิ่นมายิงประตูตีเสมอ ในจังหวะที่ แรชฟอร์ด เก็บบอลได้จ่ายให้ บรูโน่ ก่อนส่งต่อ กรีนวูด ทางซ้ายจับแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งตุงตาข่าย และในนาทีที่ 35 แมนฯยู ได้จุดโทษ จากจังหวะลูกเตะมุมเ สมิธ วิ่งมาจะสกัดแต่บอลเด้งโดนแขน แรชฟอร์ด รับหน้าที่สังหารและก็ไม่พลาดส่ง แมนฯ ยูไนเต็ด แซงนำ 2-1 และในช่วงต่อเวลาทดเจ็บในครึ่งแรกนาทีที่ 45+2 แมนฯ ยู บุกชุดสุดท้ายก็เอาประตูเพิ่มได้อีก ในจังหวะที่ บรูโน่ จ่ายให้ มาร์กซิยาล ฉีกตัวเองออกมาทางซ้ายเลือกเลี้ยงตัดมาหน้าเขตโทษแล้วซัดส่งบอลเช็ดคานเข้าไปอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก แมนฯ ยู ทิ้งห่าง 3-1 เริ่มเกมการแข่งขันครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 49 แมนฯยู มาเสียจุดโทษบ้าง จากจังหวะที่ ไบญี่ ที่พยายามจะพักบอลคืนหลัง ซึ่งมันแรงเลยยกแขนขึ้นมา ทีนี้ภาพช้าโชว์ว่าแขน ไบญี่ มันอยู่ภายในกรอบเขตโทษแม้ตัวอยู่ด้านนอก ถึงอย่างนั้นก็ยังก้ำกึ่งว่าแขนหรือไหล่ และเป็น คิง ที่ยิงจุดโทษให้ บอร์นมัธ ไล่ตามมาติดๆ 2-3 และในนาทีที่ 54 เนมานย่า มาติช จ่ายให้ กรีนวู้ด กระชากเข้าไปยิงด้วยขวา บอลพุ่งหนีมือ แรมส์เดล ตุงตาข่าย เจ้าบ้านนำห่างอีกหน 4-2 และในนาทีที่ 59 แมนฯยู มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะราวๆ 20 หลา บรูโน่ ปั่นเต็มแรงด้วยเท้าขวาเข้าประตูไปเป็น 5-2 จบเกม แมนฯ ยู ชนะ บอร์นมัธ 5-2 ทำให้พวกเขาไร้พ่ายเพิ่มเป็น 16 เกมในทุกรายการและขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ชั่วคราวเหนือ เชลซี แต้มเดียว ส่วน บอร์นมัธ แพ้ 5 นัดรวดและยังจมรองบ๊วยต่อไป ห่างโซนปลอดภัยคะแนนนึงโดยแข่งมากกว่าหนึ่งนัด